(Source: pixta)
"อาวะโดริ" นั้นมีประเภทของการรำคือ "โอโตโกะโดริ" ที่ใส่ชุดยูกาตะหรือฮัปปิ และรองเท้าทาบิ และ "อนนะโอโดริ" ที่สวมใส่ยูกาตะผู้หญิงและหมวกอามิงาสะ และรองเท้าเกตะ การเต้นนั้นมีตั้งแต่การแสดงท่าทางที่แข็งแรง ไปจนถึงท่ารำที่อ่อนช้อย ไม่ว่าจะเป็นการรำแบบไหนก็จะมีการเปล่งเสียงแบบเดียวกันคือ "ยัตโตะซา" "ยัตโตะยัตโตะ"
ที่ "อาวะโอโดรินั้น" จะมีกลุ่มรำที่ชื่อว่า "เร็น" ซึ่งจะมีผู้คนเข้าร่วมกว่าหนึ่งพันคนทุกปี ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่เคยเต้นใน "อาวะโดริ" ก็สามารถเข้าไปร่วมรำได้ใน "นิวากะเร็น" ไม่ว่าจะใส่ชุดใดก็ตาม และหากได้รับการสอนจากผู้ที่รำแล้วสามารถเข้าไปแสดงบนเวทีใน "อาวะโอโดริ" ได้อีกด้วย
(Source: Wikimedia Commons)
การเต้น "อาวะโอโดริ" ในเมืองนั้นจะเริ่มเวลา 6 โมงเย็น แต่ทว่าภายในหอของเขตก็จะมีการจัดงาน "ประกวดอาวะโอโดริ" ควบคู่กันอีกด้วย ซึ่งสามารถชมได้ในตอนกลางวัน โดยในงานนี้จะมีกลุ่มนักรำชื่อดังมาแสดงวันละ 3 กลุ่ม ให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไปกับ "อาวะโอโดริ" ภายในเมืองเลยทีเดียว
(Source: pixta)
"อาวะโดริ" นั้นมีประเภทของการรำคือ "โอโตโกะโดริ" ที่ใส่ชุดยูกาตะหรือฮัปปิ และรองเท้าทาบิ และ "อนนะโอโดริ" ที่สวมใส่ยูกาตะผู้หญิงและหมวกอามิงาสะ และรองเท้าเกตะ การเต้นนั้นมีตั้งแต่การแสดงท่าทางที่แข็งแรง ไปจนถึงท่ารำที่อ่อนช้อย ไม่ว่าจะเป็นการรำแบบไหนก็จะมีการเปล่งเสียงแบบเดียวกันคือ "ยัตโตะซา" "ยัตโตะยัตโตะ"
ที่ "อาวะโอโดรินั้น" จะมีกลุ่มรำที่ชื่อว่า "เร็น" ซึ่งจะมีผู้คนเข้าร่วมกว่าหนึ่งพันคนทุกปี ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่เคยเต้นใน "อาวะโดริ" ก็สามารถเข้าไปร่วมรำได้ใน "นิวากะเร็น" ไม่ว่าจะใส่ชุดใดก็ตาม และหากได้รับการสอนจากผู้ที่รำแล้วสามารถเข้าไปแสดงบนเวทีใน "อาวะโอโดริ" ได้อีกด้วย
(Source: Wikimedia Commons)
การเต้น "อาวะโอโดริ" ในเมืองนั้นจะเริ่มเวลา 6 โมงเย็น แต่ทว่าภายในหอของเขตก็จะมีการจัดงาน "ประกวดอาวะโอโดริ" ควบคู่กันอีกด้วย ซึ่งสามารถชมได้ในตอนกลางวัน โดยในงานนี้จะมีกลุ่มนักรำชื่อดังมาแสดงวันละ 3 กลุ่ม ให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไปกับ "อาวะโอโดริ" ภายในเมืองเลยทีเดียว