(Source: 山梨のなう)
น้ำตกไหลยาว 30 เมตรที่ไหลอย่างนุ่มนวลผ่านผิวของหินผา ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยภูเขาชื่อดังของญี่ปุ่น คำว่า "เซ็งงะ" นั้นเป็นชื่อของเซียนผู้หญิงที่ปีนขึ้นไปบนพระจันทร์ที่ปรากฎในเทพนิยายจีน ซึ่งสะท้อนภาพความงามของน้ำตกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปริมาณน้ำของน้ำตกนั้นมีมาก ทำให้ภาพน้ำที่ตกลงจากหน้าผานั้นดูทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
(Source: pixta)
สันเขาคักกุเอ็นโบนั้นเป็นหินผาขนาดใหญ่สูง 180 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของหุบเขาโชเซ็งเคียว ซึ่งนอกจากรูปลักษณ์ที่งดงามแล้วยังดูทรงพลังอีกด้วย โดยเฉพาะใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลินั้นจะสามารถเห็นต้นไม้สีแดงเต็มสันเขา ถือเป็นภาพที่ควรค่าแก่การชม
(Source: (仮)徒然旅日記)
สะพานนางาโทโระบาชินั้นเป็นสะพานทรงโค้งมนสร้างขึ้นในปี 1925 ถือเป็นประตูทางเข้าของหุบเขาโชเซ็งเคียว ช่วงฤดูที่หญ้าเขียวขจีหรือฤดูใบไม้แดงนั้นสามารถเห็นทัศนียภาพที่งดงามของธรรมชาติได้โดยรอบ ทว่าสะพานแห่งนี้ไม่มีทางเดินฟุตบาท หากเดินผ่านก็ขอให้ระวังรถกันด้วย
(Source: pixta)
ประตูหินธรรมชาติอิชิมงที่เกิดจากการซ้อนทับกันของหินผาขนาดใหญ่ เป็นอุโมงค์หินที่เกิดขึ้นโดยการทรงตัวของหินผา ช่องวางระหว่างหินผานั้นกว้างเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้สามารถสัมผัสความตื่นเต้นจากหินผาที่ดูเหมือนจะตกลงมาทับได้อีกด้วย
(Source: pixta)
หุบเขาโชเซ็งเคียวนั้นเป็นสถานที่ขึ้นชื่อด้านความงามของใบไม้แดงเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น โดยรอบๆลานกว้างที่ชื่อ "โชเซ็งเคียวเอ็นจิ" นั้นเต็มไปด้วยใบไม้แดง สามารถชื่นชมทัศนียภาพที่ย้อมไปด้วยสีแดงนี้ได้ในที่แห่งนี้
(Source: 50の手習い)
โชเซ็งเคียวนั้นถือเป็นแหล่งผลึกคริสตอลชื่อดัง โดยที่ภูเขาคิมปุซังในโชเซ็งเคียวนั้นส่วนหนึ่งมีภูเขาเหมืองแร่คริสตอลอยู่ อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์คริสตอล "คริสตอลซาวน์" อยู่ที่โชเซ็งเคียวแห่งนี้ นอกจากจะสามาถมาเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆได้ ก็ยังสามารถซื้อของฝากต่างๆกลับไปได้อีกด้วย
(Source: 昇仙峡観光協会)
(Source: 山梨のなう)
น้ำตกไหลยาว 30 เมตรที่ไหลอย่างนุ่มนวลผ่านผิวของหินผา ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยภูเขาชื่อดังของญี่ปุ่น คำว่า "เซ็งงะ" นั้นเป็นชื่อของเซียนผู้หญิงที่ปีนขึ้นไปบนพระจันทร์ที่ปรากฎในเทพนิยายจีน ซึ่งสะท้อนภาพความงามของน้ำตกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปริมาณน้ำของน้ำตกนั้นมีมาก ทำให้ภาพน้ำที่ตกลงจากหน้าผานั้นดูทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
(Source: pixta)
สันเขาคักกุเอ็นโบนั้นเป็นหินผาขนาดใหญ่สูง 180 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของหุบเขาโชเซ็งเคียว ซึ่งนอกจากรูปลักษณ์ที่งดงามแล้วยังดูทรงพลังอีกด้วย โดยเฉพาะใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลินั้นจะสามารถเห็นต้นไม้สีแดงเต็มสันเขา ถือเป็นภาพที่ควรค่าแก่การชม
(Source: (仮)徒然旅日記)
สะพานนางาโทโระบาชินั้นเป็นสะพานทรงโค้งมนสร้างขึ้นในปี 1925 ถือเป็นประตูทางเข้าของหุบเขาโชเซ็งเคียว ช่วงฤดูที่หญ้าเขียวขจีหรือฤดูใบไม้แดงนั้นสามารถเห็นทัศนียภาพที่งดงามของธรรมชาติได้โดยรอบ ทว่าสะพานแห่งนี้ไม่มีทางเดินฟุตบาท หากเดินผ่านก็ขอให้ระวังรถกันด้วย
(Source: pixta)
ประตูหินธรรมชาติอิชิมงที่เกิดจากการซ้อนทับกันของหินผาขนาดใหญ่ เป็นอุโมงค์หินที่เกิดขึ้นโดยการทรงตัวของหินผา ช่องวางระหว่างหินผานั้นกว้างเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้สามารถสัมผัสความตื่นเต้นจากหินผาที่ดูเหมือนจะตกลงมาทับได้อีกด้วย
(Source: pixta)
หุบเขาโชเซ็งเคียวนั้นเป็นสถานที่ขึ้นชื่อด้านความงามของใบไม้แดงเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น โดยรอบๆลานกว้างที่ชื่อ "โชเซ็งเคียวเอ็นจิ" นั้นเต็มไปด้วยใบไม้แดง สามารถชื่นชมทัศนียภาพที่ย้อมไปด้วยสีแดงนี้ได้ในที่แห่งนี้
(Source: 50の手習い)
โชเซ็งเคียวนั้นถือเป็นแหล่งผลึกคริสตอลชื่อดัง โดยที่ภูเขาคิมปุซังในโชเซ็งเคียวนั้นส่วนหนึ่งมีภูเขาเหมืองแร่คริสตอลอยู่ อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์คริสตอล "คริสตอลซาวน์" อยู่ที่โชเซ็งเคียวแห่งนี้ นอกจากจะสามาถมาเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆได้ ก็ยังสามารถซื้อของฝากต่างๆกลับไปได้อีกด้วย
(Source: 昇仙峡観光協会)