รูปปั้นอนุสรณ์สันติภาพนี้ทำจากสัมฤทธิ์สูง 9.7 เมตร หนัก 30 ตันสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่สันติภาพของชาวเมืองนางาซากิ โดยอนุสรณ์นี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความรักของเทพเจ้าและความเมตตาของพระพุทธ โดยนิ้วมือขวาที่ชี้ไปบนฟ้านั้นแสดงถึง "ความอันตรายของระเบิดปรมาณู" มือซ้ายที่ยื่นไปราบกับพื้นนั้นแสดงถึง "สันติภาพ" เปลือกตาที่ปิดอยู่นั้นแสดงถึง "ความสุขติของดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณู"
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากระเบิดปรมาณูนั้นจะมีแผลไหม้ไปจนถึงภายในร่างกาย ทำให้ก่อนตายผู้เคราะห์ร้ายจะตะโกนโหยหาน้ำ ซึ่ง "น้ำพุแห่งสันติภาพ (เฮวะโนะอิสึมิ)" ถูกสร้างขึ้นเพื่ออ้อนวอนต่อการยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์และสันติสุขนิรันด์ของโลก และอุทิศแด่ดวงวิญญาณที่ตายจากให้ไปสู่สุขติด้วยน้ำจากน้ำพุแห่งนี้ โดยน้ำพุนั้นแสดงถึงปีกของนกพิราบและนกกะเรียนซญึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ
"หอคอยโอริสึรุ" สร้างขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 1982 โดยหอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นอย่างละที่ทั้งสองข้างของรูปปั้นอนุสรณ์สันติภาพ โดยผู้ที่มาเยี่ยมเยือนนั้นจะสักการะขอพรให้ทุกวันมีแต่สันติสุข โดยจำนวนนกกระดาษที่มากมายนั้นแสดงถึงคำอธิษฐานของผู้คนเป็นจำนวนมาก
ที่แห่งนี้จัดนิทรรศการแสดงถึงจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมจากระเบิดปรมาณู กาลเวลาที่ผ่านไปหลังจากการทิ้งระเบิด ประวัติศาสตร์การพัฒนาอาวุธระเบิดปรมาณู ไปจนถึงการร้องขอสันติภาพ ที่ห้องเพื่อการเรียนรู้สันติภาพนั้นสามารถชมเอกสารเกี่ยวกับระเบิดปรมาณูและสันติภาพได้มากกว่า 20000 ชิ้น นอกจากนี้ภายในอาคารยังจัดแสดงซากของตึกที่ถูกทำลายจากระเบิดปรมาณูเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความหายนะของสงครามได้เป็นอย่างดี
(Source: flickr/ othree)
"บริเวณแห่งความหวัง (zone of hopes)" นั้นนอกจากจะมีอนุสรณ์แห่งสันติภาพที่เป็นศูนย์กลาง และบ่อน้ำพุแห่งสันติภาพแล้ว ยังมีรูปปั้นอีก 15 รูปที่ได้รับมาจากนานาประเทศทั่วโลกอันแสดงถึงสันติภาพ ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการรำลึกถึงสันติภาพได้เป็นอย่างดี ในวันที่ 9 สิงหาคมของทุกปีนั้นจะมีพิธีรำลึกถึงสันติภาพจัดขึ้นที่อนุสรณ์สถานแห่งนี้อีกด้วย
สวนบะคุชินจิอยู่ด้านตรงข้ามสวนสันติภาพ เป็นจุดศูนย์กลางทิ้งระเบิดปรมาณูที่นางาซากิ โดยเสาหินนั้นแสดงถึงจุดศูนย์กลางของระเบิดปรมาณู โดยรอบเป็นลานกว้างวงกลมแสดงถึงการระเบิดเหนือจุดนี้ไป 500 เมตร โดยกล่องด้านหน้านั้นได้จัดเก็บป้ายชื่อผู้เสียชีวิตที่ทำเป็นไมโครฟิล์มอีกด้วย
รูปปั้นอนุสรณ์สันติภาพนี้ทำจากสัมฤทธิ์สูง 9.7 เมตร หนัก 30 ตันสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่สันติภาพของชาวเมืองนางาซากิ โดยอนุสรณ์นี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความรักของเทพเจ้าและความเมตตาของพระพุทธ โดยนิ้วมือขวาที่ชี้ไปบนฟ้านั้นแสดงถึง "ความอันตรายของระเบิดปรมาณู" มือซ้ายที่ยื่นไปราบกับพื้นนั้นแสดงถึง "สันติภาพ" เปลือกตาที่ปิดอยู่นั้นแสดงถึง "ความสุขติของดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณู"
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากระเบิดปรมาณูนั้นจะมีแผลไหม้ไปจนถึงภายในร่างกาย ทำให้ก่อนตายผู้เคราะห์ร้ายจะตะโกนโหยหาน้ำ ซึ่ง "น้ำพุแห่งสันติภาพ (เฮวะโนะอิสึมิ)" ถูกสร้างขึ้นเพื่ออ้อนวอนต่อการยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์และสันติสุขนิรันด์ของโลก และอุทิศแด่ดวงวิญญาณที่ตายจากให้ไปสู่สุขติด้วยน้ำจากน้ำพุแห่งนี้ โดยน้ำพุนั้นแสดงถึงปีกของนกพิราบและนกกะเรียนซญึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ
"หอคอยโอริสึรุ" สร้างขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 1982 โดยหอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นอย่างละที่ทั้งสองข้างของรูปปั้นอนุสรณ์สันติภาพ โดยผู้ที่มาเยี่ยมเยือนนั้นจะสักการะขอพรให้ทุกวันมีแต่สันติสุข โดยจำนวนนกกระดาษที่มากมายนั้นแสดงถึงคำอธิษฐานของผู้คนเป็นจำนวนมาก
ที่แห่งนี้จัดนิทรรศการแสดงถึงจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมจากระเบิดปรมาณู กาลเวลาที่ผ่านไปหลังจากการทิ้งระเบิด ประวัติศาสตร์การพัฒนาอาวุธระเบิดปรมาณู ไปจนถึงการร้องขอสันติภาพ ที่ห้องเพื่อการเรียนรู้สันติภาพนั้นสามารถชมเอกสารเกี่ยวกับระเบิดปรมาณูและสันติภาพได้มากกว่า 20000 ชิ้น นอกจากนี้ภายในอาคารยังจัดแสดงซากของตึกที่ถูกทำลายจากระเบิดปรมาณูเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความหายนะของสงครามได้เป็นอย่างดี
(Source: flickr/ othree)
"บริเวณแห่งความหวัง (zone of hopes)" นั้นนอกจากจะมีอนุสรณ์แห่งสันติภาพที่เป็นศูนย์กลาง และบ่อน้ำพุแห่งสันติภาพแล้ว ยังมีรูปปั้นอีก 15 รูปที่ได้รับมาจากนานาประเทศทั่วโลกอันแสดงถึงสันติภาพ ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการรำลึกถึงสันติภาพได้เป็นอย่างดี ในวันที่ 9 สิงหาคมของทุกปีนั้นจะมีพิธีรำลึกถึงสันติภาพจัดขึ้นที่อนุสรณ์สถานแห่งนี้อีกด้วย
สวนบะคุชินจิอยู่ด้านตรงข้ามสวนสันติภาพ เป็นจุดศูนย์กลางทิ้งระเบิดปรมาณูที่นางาซากิ โดยเสาหินนั้นแสดงถึงจุดศูนย์กลางของระเบิดปรมาณู โดยรอบเป็นลานกว้างวงกลมแสดงถึงการระเบิดเหนือจุดนี้ไป 500 เมตร โดยกล่องด้านหน้านั้นได้จัดเก็บป้ายชื่อผู้เสียชีวิตที่ทำเป็นไมโครฟิล์มอีกด้วย