ไทย
ไทย

ภูเขาไฟฟูจิ

(Source : PIXTA)
"ภูเขาไฟฟูจิ" ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์กรยูเนสโกเมื่อปี 2013 โดยส่วนประกอบของมรดกโลกนี้ได้แก่โบราณสถานบนยอดของภูเขาไฟฟูจิ ทางเดินขึ้นเขาทุกทาง ศาลเจ้าอาซามะ ทะเลสาบทั้งห้า โอชิโนะฮักไก เป็นต้น ภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความสูง 3776 เมตรแห่งนี้นั้นมีผู้เดินทางมาปีนเฉลี่ย 250000 คนในแต่ละปี โดยสามารถปีนได้ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.ถึงกลางเดือนก.ย. ทว่านอกจากช่วงเวลาดังกล่าวก็สามารถชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามได้จากจุดชมวิวโดยรอบ ตั้งแต่โบราณนั้นภูเขาไฟฟูจิถือเป็นสัญลักษณ์ทางความเชื่อที่ว่ากันว่าเป็น "ภูเขาที่มีเทพเจ้าสถิตอยู่" โดยมีผลงานศิลปะมากมายที่ประกอบด้วยภูเขาไฟฟูจิ เช่น ภาพวาดอุกิโยเอะ เป็นต้น

(Source: PIXTA)

ภูเขาไฟฟูจิแต่ละฤดูกาล

โดยรอบภูเขาไฟฟูจินั้นมีสถานที่สวยงามมากมาย ซึ่งจะต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล โดยฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระ ฤดูร้อนจะมีดอกทานตะวัน ฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้แดง และฤดูหนาวจะมีทัศนียภาพหิมะ ซึ่งภูเขาไฟฟูจิในแต่ละฤดูกาลนั้นล้วนแต่สวยงามทั้งสิ้นราวกับต้องหยุดหายใจเลยทีเดียว

(Source: PIXTA)

(Source: PIXTA)

(Source: PIXTA)

(Source: PIXTA)

สนุกกับการปีนเขา

ภูเขาไฟฟูจิมีผู้คนมาปีนเขาเฉลี่ย 250,000 คนในแต่ละปี โดยจะเปิดเส้นทางให้ปีนระหว่างต้นเดือนก.ค.ถึงกลางเดือนก.ย. ใช้เวลาปีนกว่า 5 ชั่วโมงต่อหนึ่งเที่ยว ทำให้ค่อนข้างลำบากต่อกำลังกาย การที่จะปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดนั้นควรจะต้องทำการวางแผนและเตรียมตัวเป็นอย่างดี

(Source: PIXTA)

รูทปีนเขาฟูจิทั้ง 4

รูทปีนภูเขาไฟฟูจินั้นมี 4 รูท ได้แก่ รูทโยชิดะทางจังหวัดยามานาชิ รูทฟูจิโนะมิยะทางจังหวัดชิสึโอกะ รูทโกเทมบะ รูทสึบะชิริ โดยรูทโยชิดะนั้นเป็นรูทที่มีผู้ใช้ราว 60% เพราะเป็นรูทที่มีทางเดินง่ายและมีร้านพักแรมเล็กๆบนเขาตลอด แต่ทว่าเนื่องจากเป็นรูทที่นิยมจึงทำให้ค่อนข้างแออัด จุดเริ่มต้นปีนเขานั้นคือฟูจิชั้น 5 ซึ่งมีร้านของฝากและร้านอาหารมากมาย

(Source: PIXTA)

พระอาทิตย์ขึ้น(โกะไรโค)

หากกล่าวถึงไฮไลท์ของการปีนฟูจิแล้วนั้นก็คือภาพพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาหรือ "โกะไรโค" นั่นเอง โดยถือเป็นภาพพระอาทิตย์ยามเช้าที่ช่วยคลายความเหนื่อยของผู้ที่ปีนขึ้นมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นนั้นจะอยู่ราว 4:20-5:30 ตามแต่ช่วงเวลา หากต้องการจะเห็นภาพโกะไรโคนั้น ปกติแล้วให้นอนพักแรมบนเขา 1 คืนแล้วจึงค่อยออกเดินทางตอนกลางคืนเวลาตีสอง

(Source: PIXTA)

โอฮาจิเมกุริ

หลังจากชื่นชมโกะไรโคไปแล้ว ต่อจากนั้นให้ทำ "โอฮาจิเมกุริ" ซึ่งเป็นการวนหนึ่งรอบปากภูเขาไฟฟูจิซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 780 เมตร การเดินนั้นใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยระหว่างรูทเดินนั้นจะมี "ไปรษณีย์บนยอดเขาฟูจิ" ที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งขายใบรับรองการปีนเขาพร้อมกับติดไปรษนียากรณ์ต้นฉบับ ถือเป็นของที่ระลึกในการปีนเขาอีกด้วย โดยจะส่งให้ทางไปรษณีย์ไม่กี่วันหลังจากปีนเขา

(Source: PIXTA)

ปีนเขารอบฟูจิชั้น 5

การปีนเขาบนฟูจิชั้นห้านั้นเหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกว่า "อยากจะลองปีนฟูจิดู แต่หากต้องปีนไปถึงยอดนั้นคงไม่ไหว" โดยการปีนที่ชั้นห้านั้นไม่ใช่การปีนขึ้นไปบนยอดเขา แต่คือการวนรอบเขาด้านข้างนั่นเอง ทำให้สามารถชื่นชมกับพืชภูเขาสูงที่อยู่บนภูเขาฟูจิได้ ทั้งนี่้ยังมีโอกาสที่สามารถพบสัตว์ที่อาศัยตามป่าได้อีกด้วย ถึงแม้จะปีนแค่ชั้นห้าแต่ก็สามารถสัมผัสเสน่ห์ของภูเขาไฟฟูจิได้นะ

(Source: PIXTA)

มิโฮะโนะมัทสึบาระ

มิโฮะโนะมัทสึบาระนั้นเป็นสถานที่ชมวิวบนคาบสมุทรมิโฮะในเขตชิมิสึจังหวัดชิสึโอกะ ที่แห่งนี้ค่อนข้างห่างจากภูเขาฟูจิเล็กน้อย แต่ทว่าด้วยความสวยงามนั้นจึงได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ชมวิวชื่อดังและเป็นหนึ่งในส่วนของมรดกโลกภูเขาฟูจิอีกด้วย ภาพของภูเขาฟูจิและต้นสน รวมถึงคลื่นที่กระทบชายฝั่งถือเป็นทัศนียภาพที่ลงตัวอย่างยิ่ง

(Source: PIXTA)

ทะเลสาบคาวากุจิโกะ

ทะเลสาบห้าแห่งที่อยู่เชิงภูเขาไฟฟูจินั้นถูกเรียกว่าทะเลสาบทั้ง 5 ของฟูจิ หนึ่งในนั้นคือทะเลสาบคาวากุจิโกะที่มีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลินั้นภาพของใบไม้แดงและภูเขาฟูจินั้นสวยงามเป็นอย่างมาก อีกทั้งรอบทะเลสาบยังมีที่ท่องเที่ยวและที่พักออนเซ็นจำนวนมาก ทำให้สามารถเที่ยวผ่อนคลายได้หลายแบบอีกด้วย

(Source: PIXTA)

ทะเลสาบยามานากะโกะ

ทะเลสาบยามานากะโกะนั้นเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในห้าทะเลสาบของฟูจิ มีเรือสำราญให้บริการ อีกทั้งยังมีร้านกาแฟน่ารักและพิพิธภัณฑ์ศิลปะอยู่โดยรอบ ทว่าที่แนะนำคือ "ฟูจิกลับหัว" โดยภาพของฟูจิที่สะท้อนผืนทะเลสาบนั้นสวยงามราวกับผลงานศิลปะเลยทีเดียว อย่าลืมมาสัมผัสความงดงามกันนะ

(Source: PIXTA)

ทะเลสาบทานูกิโกะ

ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ในเขตฟูจิโนะมิยะจังหวัดชิสึโอกะ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในทะเลสาบทั้งห้าของฟูจิ แต่ก็เป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด โดยสามารถเห็นภาพของ "ไดมอนด์ฟูจิ" ที่มีพระอาทิตย์ซ้อนบนยอดเขา และภาพ "ดับเบิ้ลไดมอนด์ฟูจิ" ที่เป็นภาพไดมอนด์ฟูจิสะท้อนน้ำได้ด้วย ซึ่งดับเบิ้ลไดมอนด์ฟูจินั้นสามารถเห็นได้ทุกปีช่วงวันที่ 20 เม.ย. หรือวันที่ 20 ส.ค.

(Source: PIXTA)

น้ำตกชิราอิโตะโนะทาคิ

น้ำตกชิราอิโตะโนะทาคินั้นเป็นส่วนหนึ่งในมรดกโลกของภูเขาฟูจิ โดยเป็นสายน้ำตกราว 100 สายรียงรายกันโดนมาจากน้ำพุบนภูเขาฟูจิ ชื่อของน้ำตกชิราอิโตะโนะทาคินั้นมาจากสายน้ำตกที่ไหลลงจากผาหินราวกับเส้นไหมสีขาว ถือเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติและจุดชมวิวชื่อดังของประเทศอีกด้วย

(Source: alligatorfarm / PIXTA(ピクスタ))

ศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็งเก็งไทฉะ

ศาลเจ้าที่รวมความเชื่อของภูเขาฟูจิไว้ เป็นศาลเจ้าเซ็งเก็งที่มีราว 1300 แห่งทั่วประเทศ โดยศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็งเก็งไทฉะนั้นถือเป็นศาลเจ้าหลักที่อยู่บนเชิงเขาฟูจิ มีประวัติยาวนานกว่า 1200 ปี ถือเป็นส่วนหนึ่งในมรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ ในเดือนพ.ย.ของทุกปีจะมีงานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง "ฟูจิโนะมิยะอะกิมัทสึริ" ซึ่งมีชื่อเสียงมากพร้อมกับฉากหลังที่เป็นภูเขาไฟฟูจิ

(Source: PIXTA)

โอชิโนะฮักไก

บ่อน้ำพุที่โอชิโนะฮักไกนั้นเกิดจากน้ำพุที่รวมกันจากน้ำที่ไหลมาอย่างยาวนานในแต่ละปีซึ่งเกิดจากการทับถมกันของหิมะและฝนที่ตกบนภูเขาไฟฟูจิ โดยรอบนั้นยังมีบ้านญี่ปุ่นโบราณหลงเหลืออยู่ ทำให้เห็นทัศนียภาพญี่ปุ่นดังเดิม นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารยอดนิยมที่บริการกาแฟหรือโซบะที่ทำมาจากน้ำพุอีกด้วย

(Source: PIXTA)

ฟูจิคิวไฮแลนด์

สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวมากมาย โดยเครื่องเล่นหลายชิ้นได้รับการจดทะเบียนสถิติโลกกิเนส ทำให้มีผู้มาเที่ยวมากมายทั้งจากในและนอกประเทศ นอกจากนี้ยังมีบ้านผีสิงและจุดที่สามารถสนุกได้ทั้งครอบครัวอีกด้วย ถือเป็นธีมปาร์คที่สามารถสนุกได้ทั้งวัน

(Source: レスベラ / PIXTA(ピクスタ) )

ฟูจิซาฟารีปาร์ค

ฟูจิซาฟารีปาร์ค สวนสัตว์เปิดขนาดใหญ่ที่มีสัตว์กว่า 900 ตัว 70 ชนิด ภายในสวนนั้นมีโซนซาฟารีที่สามารถขับรถเข้าไปชมสัตว์ต่างๆได้ อีกทั้งยังมีไนท์ซาฟารีที่สามารถชมสัตว์ในยามค่ำคืนได้อีกด้วย

(Source: おーはし / PIXTA(ピクスタ))

โกเทมบะพรีเมี่ยมเอาท์เลท

เอาท์เล็ทขนาดใหญ่ชั้นนำของประเทศ มีร้านกว่า 220 ร้านหลายประเภทตั้งแต่ร้านเสื้อผ้ากีฬา เสื้อผ้าแฟชั่น ไปจนถึงสินค้าอเนกประสงค์ต่างๆ ทำให้สามารถเจอของที่ต้องการได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย

(Source: yoshima / PIXTA(ピクスタ))

ที่อยู่
จังหวัดยามานาชิและชิสึโอกะ
Contact No.
เข้าถึง
จากสถานี Fujikyuko Fujisan หรือสถานี Kawaguchiko เดินทางด้วยบัส Fujikyuko yamanashi ไปทาง Fujisangogome ใช้เวลา 50 นาทีลงป้ายสุดท้าย หรือจากสถานี JR Fujinomiya เดินทางด้วยบัส Fujikyuko Shizuoka 1 ชั่วโมง 40 นาที ลงป้ายสุดท้าย
Opening Hours / Holidays
เวลาที่ต้องการ
ค่าเข้า

(Source: PIXTA)

ภูเขาไฟฟูจิแต่ละฤดูกาล

โดยรอบภูเขาไฟฟูจินั้นมีสถานที่สวยงามมากมาย ซึ่งจะต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล โดยฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระ ฤดูร้อนจะมีดอกทานตะวัน ฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้แดง และฤดูหนาวจะมีทัศนียภาพหิมะ ซึ่งภูเขาไฟฟูจิในแต่ละฤดูกาลนั้นล้วนแต่สวยงามทั้งสิ้นราวกับต้องหยุดหายใจเลยทีเดียว

(Source: PIXTA)

(Source: PIXTA)

(Source: PIXTA)

(Source: PIXTA)

สนุกกับการปีนเขา

ภูเขาไฟฟูจิมีผู้คนมาปีนเขาเฉลี่ย 250,000 คนในแต่ละปี โดยจะเปิดเส้นทางให้ปีนระหว่างต้นเดือนก.ค.ถึงกลางเดือนก.ย. ใช้เวลาปีนกว่า 5 ชั่วโมงต่อหนึ่งเที่ยว ทำให้ค่อนข้างลำบากต่อกำลังกาย การที่จะปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดนั้นควรจะต้องทำการวางแผนและเตรียมตัวเป็นอย่างดี

(Source: PIXTA)

รูทปีนเขาฟูจิทั้ง 4

รูทปีนภูเขาไฟฟูจินั้นมี 4 รูท ได้แก่ รูทโยชิดะทางจังหวัดยามานาชิ รูทฟูจิโนะมิยะทางจังหวัดชิสึโอกะ รูทโกเทมบะ รูทสึบะชิริ โดยรูทโยชิดะนั้นเป็นรูทที่มีผู้ใช้ราว 60% เพราะเป็นรูทที่มีทางเดินง่ายและมีร้านพักแรมเล็กๆบนเขาตลอด แต่ทว่าเนื่องจากเป็นรูทที่นิยมจึงทำให้ค่อนข้างแออัด จุดเริ่มต้นปีนเขานั้นคือฟูจิชั้น 5 ซึ่งมีร้านของฝากและร้านอาหารมากมาย

(Source: PIXTA)

พระอาทิตย์ขึ้น(โกะไรโค)

หากกล่าวถึงไฮไลท์ของการปีนฟูจิแล้วนั้นก็คือภาพพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาหรือ "โกะไรโค" นั่นเอง โดยถือเป็นภาพพระอาทิตย์ยามเช้าที่ช่วยคลายความเหนื่อยของผู้ที่ปีนขึ้นมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นนั้นจะอยู่ราว 4:20-5:30 ตามแต่ช่วงเวลา หากต้องการจะเห็นภาพโกะไรโคนั้น ปกติแล้วให้นอนพักแรมบนเขา 1 คืนแล้วจึงค่อยออกเดินทางตอนกลางคืนเวลาตีสอง

(Source: PIXTA)

โอฮาจิเมกุริ

หลังจากชื่นชมโกะไรโคไปแล้ว ต่อจากนั้นให้ทำ "โอฮาจิเมกุริ" ซึ่งเป็นการวนหนึ่งรอบปากภูเขาไฟฟูจิซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 780 เมตร การเดินนั้นใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยระหว่างรูทเดินนั้นจะมี "ไปรษณีย์บนยอดเขาฟูจิ" ที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งขายใบรับรองการปีนเขาพร้อมกับติดไปรษนียากรณ์ต้นฉบับ ถือเป็นของที่ระลึกในการปีนเขาอีกด้วย โดยจะส่งให้ทางไปรษณีย์ไม่กี่วันหลังจากปีนเขา

(Source: PIXTA)

ปีนเขารอบฟูจิชั้น 5

การปีนเขาบนฟูจิชั้นห้านั้นเหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกว่า "อยากจะลองปีนฟูจิดู แต่หากต้องปีนไปถึงยอดนั้นคงไม่ไหว" โดยการปีนที่ชั้นห้านั้นไม่ใช่การปีนขึ้นไปบนยอดเขา แต่คือการวนรอบเขาด้านข้างนั่นเอง ทำให้สามารถชื่นชมกับพืชภูเขาสูงที่อยู่บนภูเขาฟูจิได้ ทั้งนี่้ยังมีโอกาสที่สามารถพบสัตว์ที่อาศัยตามป่าได้อีกด้วย ถึงแม้จะปีนแค่ชั้นห้าแต่ก็สามารถสัมผัสเสน่ห์ของภูเขาไฟฟูจิได้นะ

(Source: PIXTA)

มิโฮะโนะมัทสึบาระ

มิโฮะโนะมัทสึบาระนั้นเป็นสถานที่ชมวิวบนคาบสมุทรมิโฮะในเขตชิมิสึจังหวัดชิสึโอกะ ที่แห่งนี้ค่อนข้างห่างจากภูเขาฟูจิเล็กน้อย แต่ทว่าด้วยความสวยงามนั้นจึงได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ชมวิวชื่อดังและเป็นหนึ่งในส่วนของมรดกโลกภูเขาฟูจิอีกด้วย ภาพของภูเขาฟูจิและต้นสน รวมถึงคลื่นที่กระทบชายฝั่งถือเป็นทัศนียภาพที่ลงตัวอย่างยิ่ง

(Source: PIXTA)

ทะเลสาบคาวากุจิโกะ

ทะเลสาบห้าแห่งที่อยู่เชิงภูเขาไฟฟูจินั้นถูกเรียกว่าทะเลสาบทั้ง 5 ของฟูจิ หนึ่งในนั้นคือทะเลสาบคาวากุจิโกะที่มีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลินั้นภาพของใบไม้แดงและภูเขาฟูจินั้นสวยงามเป็นอย่างมาก อีกทั้งรอบทะเลสาบยังมีที่ท่องเที่ยวและที่พักออนเซ็นจำนวนมาก ทำให้สามารถเที่ยวผ่อนคลายได้หลายแบบอีกด้วย

(Source: PIXTA)

ทะเลสาบยามานากะโกะ

ทะเลสาบยามานากะโกะนั้นเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในห้าทะเลสาบของฟูจิ มีเรือสำราญให้บริการ อีกทั้งยังมีร้านกาแฟน่ารักและพิพิธภัณฑ์ศิลปะอยู่โดยรอบ ทว่าที่แนะนำคือ "ฟูจิกลับหัว" โดยภาพของฟูจิที่สะท้อนผืนทะเลสาบนั้นสวยงามราวกับผลงานศิลปะเลยทีเดียว อย่าลืมมาสัมผัสความงดงามกันนะ

(Source: PIXTA)

ทะเลสาบทานูกิโกะ

ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ในเขตฟูจิโนะมิยะจังหวัดชิสึโอกะ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในทะเลสาบทั้งห้าของฟูจิ แต่ก็เป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด โดยสามารถเห็นภาพของ "ไดมอนด์ฟูจิ" ที่มีพระอาทิตย์ซ้อนบนยอดเขา และภาพ "ดับเบิ้ลไดมอนด์ฟูจิ" ที่เป็นภาพไดมอนด์ฟูจิสะท้อนน้ำได้ด้วย ซึ่งดับเบิ้ลไดมอนด์ฟูจินั้นสามารถเห็นได้ทุกปีช่วงวันที่ 20 เม.ย. หรือวันที่ 20 ส.ค.

(Source: PIXTA)

น้ำตกชิราอิโตะโนะทาคิ

น้ำตกชิราอิโตะโนะทาคินั้นเป็นส่วนหนึ่งในมรดกโลกของภูเขาฟูจิ โดยเป็นสายน้ำตกราว 100 สายรียงรายกันโดนมาจากน้ำพุบนภูเขาฟูจิ ชื่อของน้ำตกชิราอิโตะโนะทาคินั้นมาจากสายน้ำตกที่ไหลลงจากผาหินราวกับเส้นไหมสีขาว ถือเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติและจุดชมวิวชื่อดังของประเทศอีกด้วย

(Source: alligatorfarm / PIXTA(ピクスタ))

ศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็งเก็งไทฉะ

ศาลเจ้าที่รวมความเชื่อของภูเขาฟูจิไว้ เป็นศาลเจ้าเซ็งเก็งที่มีราว 1300 แห่งทั่วประเทศ โดยศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็งเก็งไทฉะนั้นถือเป็นศาลเจ้าหลักที่อยู่บนเชิงเขาฟูจิ มีประวัติยาวนานกว่า 1200 ปี ถือเป็นส่วนหนึ่งในมรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ ในเดือนพ.ย.ของทุกปีจะมีงานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง "ฟูจิโนะมิยะอะกิมัทสึริ" ซึ่งมีชื่อเสียงมากพร้อมกับฉากหลังที่เป็นภูเขาไฟฟูจิ

(Source: PIXTA)

โอชิโนะฮักไก

บ่อน้ำพุที่โอชิโนะฮักไกนั้นเกิดจากน้ำพุที่รวมกันจากน้ำที่ไหลมาอย่างยาวนานในแต่ละปีซึ่งเกิดจากการทับถมกันของหิมะและฝนที่ตกบนภูเขาไฟฟูจิ โดยรอบนั้นยังมีบ้านญี่ปุ่นโบราณหลงเหลืออยู่ ทำให้เห็นทัศนียภาพญี่ปุ่นดังเดิม นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารยอดนิยมที่บริการกาแฟหรือโซบะที่ทำมาจากน้ำพุอีกด้วย

(Source: PIXTA)

ฟูจิคิวไฮแลนด์

สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวมากมาย โดยเครื่องเล่นหลายชิ้นได้รับการจดทะเบียนสถิติโลกกิเนส ทำให้มีผู้มาเที่ยวมากมายทั้งจากในและนอกประเทศ นอกจากนี้ยังมีบ้านผีสิงและจุดที่สามารถสนุกได้ทั้งครอบครัวอีกด้วย ถือเป็นธีมปาร์คที่สามารถสนุกได้ทั้งวัน

(Source: レスベラ / PIXTA(ピクスタ) )

ฟูจิซาฟารีปาร์ค

ฟูจิซาฟารีปาร์ค สวนสัตว์เปิดขนาดใหญ่ที่มีสัตว์กว่า 900 ตัว 70 ชนิด ภายในสวนนั้นมีโซนซาฟารีที่สามารถขับรถเข้าไปชมสัตว์ต่างๆได้ อีกทั้งยังมีไนท์ซาฟารีที่สามารถชมสัตว์ในยามค่ำคืนได้อีกด้วย

(Source: おーはし / PIXTA(ピクスタ))

โกเทมบะพรีเมี่ยมเอาท์เลท

เอาท์เล็ทขนาดใหญ่ชั้นนำของประเทศ มีร้านกว่า 220 ร้านหลายประเภทตั้งแต่ร้านเสื้อผ้ากีฬา เสื้อผ้าแฟชั่น ไปจนถึงสินค้าอเนกประสงค์ต่างๆ ทำให้สามารถเจอของที่ต้องการได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย

(Source: yoshima / PIXTA(ピクスタ))