เมืองโมจิโคเรโทรนั้นเต็มไปด้วยตึกสไตล์ยุโรปย้อนยุค เพียงแค่เดินเที่ยวชมก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคสุดพิเศษของตัวเมืองที่ไม่เหมือนใคร ในเวลากลางวันก็สามารถเดินชมเมืองได้ แต่ในเวลากลางคืนนั้นจะให้บรรยากาศย้อนยุคยิ่งขึ้นไปอีก
ตึกนี้เป็นสถานที่ของมิทสึอิบุสซัง (Mitsui-Bussan) บริษัทค้าขายใหญ่ตั้งแต่ปี 1920 ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ ตึกแห่งนี้สร้างโดยวิธีก่อสร้างรูปแบบยุโรป ภายในตึกมีการตกแต่งแบบอาร์ทเดโค เมื่อครั้งที่ไอน์สไตน์มาญี่ปุ่นนั้นก็ได้เคยมาบรรยายที่สถานที่แห่งนี้ โดยห้องที่ไอน์สไตน์พักเมื่อสมัยนั้นยังคงถูกเก็บรักษาไว้จนปัจจุบัน
เนื่องด้วยการเชื่อมต่อทางท่าเรือนานาชาติ ทำให้เมืองคิวชูและเมืองต้าเหลียนของจีนนั้นมีการแลกเปลี่ยนกันมายาวนาน ซึ่งห้องสมุดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1979 เพื่อรำลึกถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองเมืองที่ครบรอบ 15 ปี ช่วงก่อสร้างนั้นทางจีนได้ส่งทรัพยากรและช่างฝีมือมาช่วยก่อสร้างอีกด้วย ปัจจุบันชั้น 1 ของตึกแห่งนี้เป็นร้านอาหาร ชั้นสองเป็นห้องสมุดที่เก็บหนังสือของจีนและเอเชียตะวันออก ชั้นสามเป็นส่วนจัดแสดงเอกสารต่างๆ
สถานีโมจิโคนั้นสร้างขึ้นในปี 1891 จากการกำกับของวิศวกรชาวเยอรมัน ตัวตึกนั้นทำจากไม้ออกแบบสไตล์นีโอเรเนสซองส์ ตัวตึกนั้นมีการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำที่ทำจากทองเหลือง อ่างล้างหน้าที่ทำด้วยหินอ่อนและกระเบื้อง โดยตัวตึกถือเป็นอาคารสถานีแห่งแรกที่ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกสำคัญทางวัฒนธรรม
บริเวณโมจิโคที่เป็นท่าเรือแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศนั้นได้รับวัฒนธรรมอาหารของทางตะวันตกและที่อื่นๆมากมายมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ทำให้ที่แห่งนี้มีวัฒนธรรมอาหารเป็นของตัวเอง หนึ่งในอาหารที่พัฒนาขึ้นในเมืองแห่งนี้คือ "ยากิคาเร" สามารถชิมรสชาติได้ในร้านอาหารบริเวณนี้ที่มีกว่า 30 ร้าน นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่ออีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "จันรา" "มิโสะบุตะบาระ" ซึ่งเป็นอาหารที่สามารถชิมได้ในที่แห่งนี้เท่านั้น
"เรโทรไฮอาร์ท" แมนชั่นสูง 31 ชั้นออกแบบโดยคุโรคาวะคิโช สถาปนิกชั้นนำของญี่ปุ่น ที่จุดชมวิวความสูง 103 เมตรบนตัวตึกนั้นสามารถมองลงมาเห็นเมืองโมจิโคเรโทรได้ทั้งหมด นอกจากนี้ภายในตึกยังมีคาเฟ่ที่สามารถมานั่งผ่อนคลายดื่มชาได้อีกด้วย
เมืองโมจิโคเรโทรนั้นเต็มไปด้วยตึกสไตล์ยุโรปย้อนยุค เพียงแค่เดินเที่ยวชมก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคสุดพิเศษของตัวเมืองที่ไม่เหมือนใคร ในเวลากลางวันก็สามารถเดินชมเมืองได้ แต่ในเวลากลางคืนนั้นจะให้บรรยากาศย้อนยุคยิ่งขึ้นไปอีก
ตึกนี้เป็นสถานที่ของมิทสึอิบุสซัง (Mitsui-Bussan) บริษัทค้าขายใหญ่ตั้งแต่ปี 1920 ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ ตึกแห่งนี้สร้างโดยวิธีก่อสร้างรูปแบบยุโรป ภายในตึกมีการตกแต่งแบบอาร์ทเดโค เมื่อครั้งที่ไอน์สไตน์มาญี่ปุ่นนั้นก็ได้เคยมาบรรยายที่สถานที่แห่งนี้ โดยห้องที่ไอน์สไตน์พักเมื่อสมัยนั้นยังคงถูกเก็บรักษาไว้จนปัจจุบัน
เนื่องด้วยการเชื่อมต่อทางท่าเรือนานาชาติ ทำให้เมืองคิวชูและเมืองต้าเหลียนของจีนนั้นมีการแลกเปลี่ยนกันมายาวนาน ซึ่งห้องสมุดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1979 เพื่อรำลึกถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองเมืองที่ครบรอบ 15 ปี ช่วงก่อสร้างนั้นทางจีนได้ส่งทรัพยากรและช่างฝีมือมาช่วยก่อสร้างอีกด้วย ปัจจุบันชั้น 1 ของตึกแห่งนี้เป็นร้านอาหาร ชั้นสองเป็นห้องสมุดที่เก็บหนังสือของจีนและเอเชียตะวันออก ชั้นสามเป็นส่วนจัดแสดงเอกสารต่างๆ
สถานีโมจิโคนั้นสร้างขึ้นในปี 1891 จากการกำกับของวิศวกรชาวเยอรมัน ตัวตึกนั้นทำจากไม้ออกแบบสไตล์นีโอเรเนสซองส์ ตัวตึกนั้นมีการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำที่ทำจากทองเหลือง อ่างล้างหน้าที่ทำด้วยหินอ่อนและกระเบื้อง โดยตัวตึกถือเป็นอาคารสถานีแห่งแรกที่ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกสำคัญทางวัฒนธรรม
บริเวณโมจิโคที่เป็นท่าเรือแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศนั้นได้รับวัฒนธรรมอาหารของทางตะวันตกและที่อื่นๆมากมายมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ทำให้ที่แห่งนี้มีวัฒนธรรมอาหารเป็นของตัวเอง หนึ่งในอาหารที่พัฒนาขึ้นในเมืองแห่งนี้คือ "ยากิคาเร" สามารถชิมรสชาติได้ในร้านอาหารบริเวณนี้ที่มีกว่า 30 ร้าน นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่ออีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "จันรา" "มิโสะบุตะบาระ" ซึ่งเป็นอาหารที่สามารถชิมได้ในที่แห่งนี้เท่านั้น
"เรโทรไฮอาร์ท" แมนชั่นสูง 31 ชั้นออกแบบโดยคุโรคาวะคิโช สถาปนิกชั้นนำของญี่ปุ่น ที่จุดชมวิวความสูง 103 เมตรบนตัวตึกนั้นสามารถมองลงมาเห็นเมืองโมจิโคเรโทรได้ทั้งหมด นอกจากนี้ภายในตึกยังมีคาเฟ่ที่สามารถมานั่งผ่อนคลายดื่มชาได้อีกด้วย