(Source: BASICO / PIXTA(ピクスタ) )
หากนั่งเรือเฟอรี่ไปที่เกาะมิยาจิมะ สิ่งแรกที่สะดุดตาที่สุดคือประตูโทริอิขนาดใหญ่ของศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ โดยประตูโทริอิสูง 16 เมตรนี้ตั้งอยู่บนพื้นดินด้วยน้ำหนักของเสา โดยไม่ได้ปักลงไปบนดินแต่อย่างใด เวลาน้ำขึ้นนั้นประตูโทริอิก็มีเสน่ห์ ส่วนเวลาน้ำลงก็สามารถเดินไปบริเวณประตูโทริอิได้ด้วยการเดินเช่นกัน
(Source: 御朱印巡り)
สามารถนั่งเรือไปบริเวณประตูโทริอิได้ โดยเรือมี 2 ประเภท เวลากลางวันจะเป็นเรือโรไคซึ่งเป็นเรือพายมือตั้งแต่สมัยก่อน ส่วนเวลากลางคืนจะเป็นเรือยะคะตะฟุเนะที่มีหลังคา ซึ่งเวลากลางคืนจะมีไลท์อัพที่ประตูโทริอิ ทำให้เห็นทัศนียภาพที่ไม่เหมือนกลางวันอีกด้วย
(Source: s_fukumura / PIXTA(ピクスタ))
อุโบสถของศาลเจ้านี้เป็นที่สถิตของเทพธิดา 3 องค์ โดยศาลเจ้าอิทสึคุชิมะนั้นโด่งดังในเรื่องของการปลอดภัยในการเดินทาง การเดินเรือ ชัยชนะ ซึ่งมีโชกุนและจักรพรรดิจำนวนมากเดินทางมาสักการะอีกด้วย โดยอุโยสถในปัจจุบันนั้นถูกปรับปรุงในปี 1571
(Source: TOMOCHIN BLOG)
ฮิระบุไทสร้างด้วยไม้และยื่นออกไปบนทะเลราวกับสวนของศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ ส่วนทาคาบุไทสร้างขึ้นเพื่อจัดแสดงการรำบนเวที โดยฮิระบุไทนั้นมีเสารองรับทั้งสิ้น 239 ต้น ถือว่าแข็งแรงมาก สามารถชมภาพที่สวยงามของอุโบสถได้หากเดินไปที่ฮิราบุไทอีกด้วย
(Source: 犬島アートプロジェクト精錬所と平清盛の厳島)
อุโบสถหลักนั้นถูกเชื่อมจากซ้ายไปขวาด้วยทางเดินยาวตะวันตกนิชิไคโระ และทางเดินยาวตะวันออกฮิงาชิไคโระ ซึ่งทางเดินตรงยาวฉาบด้วยสีแดงฉานนั้นถือเป็นจุดชมวิวอีกชุดนึง พื้นของทางเดินจะมีรอยต่อระหว่างแผ่นไม้อยู่ ซึ่งทำขึ้นเพื่อลดแรงกระแทกจากคลื่นน้ำอีกด้วย
(Source: kosublog)
โนบุไท เป็นเวทีแสดงการรำพื้นบ้านของญี่ปุ่นที่เรียกว่า "โน" โดยโนบุไทที่ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะนั้นถือเป็นหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นที่ลอยอยู่เหนือน้ำทะเล มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี โดยดำเนินต่อเนื่องมาจั้งแต่ปี 1500 จนถึงปัจจุบัน
(Source: SUNQBABAブログ)
สะพานโซริบาชิเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างทางเดินนิชิไคโรและพื้นดิน ถูกใช้สำหรับการเข้าสักการะของตัวแทนจักรพรรดิ โซริบาชิในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี 1557 หากมองจากในศาลเจ้าแล้วจะเห็นภาพคอนทราสต์ของสีแดงจากสะพานและพื้นหลังสีเขียวของมิยาจิมะได้อย่างสวยงาม
(Source: Attila JANDI/shutterstock)
บริเวณรอบศาลเจ้าอิทสึคุชิมะในมิยาจิมะนั้นมีกวางป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งความจริงแล้วกวางเหล่านี้ถูกย้ายมาจากสวนนาราและมาขยายพันธุ์บนเกาะแห่งนี้ โดยกวางของนารานั้นรู้จักกันว่าเป็นสัตว์ของพระเจ้าในศาลเจ้าฮะสึกะไทฉะ ส่วนกวางในมิยาจิมะนั้นก็ยังถูกรักษาไว้อย่างดีราวกับสัตว์ของพระเจ้าเช่นกัน ทว่าไม่สามารถให้อาหารกวางในมิยาจิมะได้
(Source: KPG_Payless/shutterstock)
เมืองร้านค้าโอโมเทะซันโดอยู่ระหว่างทางเดินจากท่าเรือไปศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ โดยที่แห่งนี้มีร้านอาหารที่สามารถลิ้มรสหอยนางรมชื่อดังของมิยาจิมะ ร้านของฝาก ร้านขนม รวมราว 70 ร้านเรียงต่อกันในเมืองแห่งนี้ หนึ่งในนั้นคือร้าน "โอคิโนะซุยซัน" ที่ขายหอยนางรมย่างสดใหม่อีกด้วย
(Source: ミサイルマシンのブログ)
โมมิจิมันจูเป็นขนมมันจูรูปร่างใบเมเปิ้ล ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อมิยาจิมะที่รู้จักกันทั่วประเทศ มีร้านที่ขายมากมาย เช่น ร้าน "อิวะมุระโมมิจิยะ" ร้านเก่าแก่ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่สมัยเมจิ นอกจากใส้ถั่วแดงแล้วยังมี ไส้ชีส ไส้แกงกะหรี่ ไส้ช็อคโกแลตอีกด้วย
(Source: Instagram)
(Source: BASICO / PIXTA(ピクスタ) )
หากนั่งเรือเฟอรี่ไปที่เกาะมิยาจิมะ สิ่งแรกที่สะดุดตาที่สุดคือประตูโทริอิขนาดใหญ่ของศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ โดยประตูโทริอิสูง 16 เมตรนี้ตั้งอยู่บนพื้นดินด้วยน้ำหนักของเสา โดยไม่ได้ปักลงไปบนดินแต่อย่างใด เวลาน้ำขึ้นนั้นประตูโทริอิก็มีเสน่ห์ ส่วนเวลาน้ำลงก็สามารถเดินไปบริเวณประตูโทริอิได้ด้วยการเดินเช่นกัน
(Source: 御朱印巡り)
สามารถนั่งเรือไปบริเวณประตูโทริอิได้ โดยเรือมี 2 ประเภท เวลากลางวันจะเป็นเรือโรไคซึ่งเป็นเรือพายมือตั้งแต่สมัยก่อน ส่วนเวลากลางคืนจะเป็นเรือยะคะตะฟุเนะที่มีหลังคา ซึ่งเวลากลางคืนจะมีไลท์อัพที่ประตูโทริอิ ทำให้เห็นทัศนียภาพที่ไม่เหมือนกลางวันอีกด้วย
(Source: s_fukumura / PIXTA(ピクスタ))
อุโบสถของศาลเจ้านี้เป็นที่สถิตของเทพธิดา 3 องค์ โดยศาลเจ้าอิทสึคุชิมะนั้นโด่งดังในเรื่องของการปลอดภัยในการเดินทาง การเดินเรือ ชัยชนะ ซึ่งมีโชกุนและจักรพรรดิจำนวนมากเดินทางมาสักการะอีกด้วย โดยอุโยสถในปัจจุบันนั้นถูกปรับปรุงในปี 1571
(Source: TOMOCHIN BLOG)
ฮิระบุไทสร้างด้วยไม้และยื่นออกไปบนทะเลราวกับสวนของศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ ส่วนทาคาบุไทสร้างขึ้นเพื่อจัดแสดงการรำบนเวที โดยฮิระบุไทนั้นมีเสารองรับทั้งสิ้น 239 ต้น ถือว่าแข็งแรงมาก สามารถชมภาพที่สวยงามของอุโบสถได้หากเดินไปที่ฮิราบุไทอีกด้วย
(Source: 犬島アートプロジェクト精錬所と平清盛の厳島)
อุโบสถหลักนั้นถูกเชื่อมจากซ้ายไปขวาด้วยทางเดินยาวตะวันตกนิชิไคโระ และทางเดินยาวตะวันออกฮิงาชิไคโระ ซึ่งทางเดินตรงยาวฉาบด้วยสีแดงฉานนั้นถือเป็นจุดชมวิวอีกชุดนึง พื้นของทางเดินจะมีรอยต่อระหว่างแผ่นไม้อยู่ ซึ่งทำขึ้นเพื่อลดแรงกระแทกจากคลื่นน้ำอีกด้วย
(Source: kosublog)
โนบุไท เป็นเวทีแสดงการรำพื้นบ้านของญี่ปุ่นที่เรียกว่า "โน" โดยโนบุไทที่ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะนั้นถือเป็นหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นที่ลอยอยู่เหนือน้ำทะเล มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี โดยดำเนินต่อเนื่องมาจั้งแต่ปี 1500 จนถึงปัจจุบัน
(Source: SUNQBABAブログ)
สะพานโซริบาชิเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างทางเดินนิชิไคโรและพื้นดิน ถูกใช้สำหรับการเข้าสักการะของตัวแทนจักรพรรดิ โซริบาชิในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี 1557 หากมองจากในศาลเจ้าแล้วจะเห็นภาพคอนทราสต์ของสีแดงจากสะพานและพื้นหลังสีเขียวของมิยาจิมะได้อย่างสวยงาม
(Source: Attila JANDI/shutterstock)
บริเวณรอบศาลเจ้าอิทสึคุชิมะในมิยาจิมะนั้นมีกวางป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งความจริงแล้วกวางเหล่านี้ถูกย้ายมาจากสวนนาราและมาขยายพันธุ์บนเกาะแห่งนี้ โดยกวางของนารานั้นรู้จักกันว่าเป็นสัตว์ของพระเจ้าในศาลเจ้าฮะสึกะไทฉะ ส่วนกวางในมิยาจิมะนั้นก็ยังถูกรักษาไว้อย่างดีราวกับสัตว์ของพระเจ้าเช่นกัน ทว่าไม่สามารถให้อาหารกวางในมิยาจิมะได้
(Source: KPG_Payless/shutterstock)
เมืองร้านค้าโอโมเทะซันโดอยู่ระหว่างทางเดินจากท่าเรือไปศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ โดยที่แห่งนี้มีร้านอาหารที่สามารถลิ้มรสหอยนางรมชื่อดังของมิยาจิมะ ร้านของฝาก ร้านขนม รวมราว 70 ร้านเรียงต่อกันในเมืองแห่งนี้ หนึ่งในนั้นคือร้าน "โอคิโนะซุยซัน" ที่ขายหอยนางรมย่างสดใหม่อีกด้วย
(Source: ミサイルマシンのブログ)
โมมิจิมันจูเป็นขนมมันจูรูปร่างใบเมเปิ้ล ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อมิยาจิมะที่รู้จักกันทั่วประเทศ มีร้านที่ขายมากมาย เช่น ร้าน "อิวะมุระโมมิจิยะ" ร้านเก่าแก่ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่สมัยเมจิ นอกจากใส้ถั่วแดงแล้วยังมี ไส้ชีส ไส้แกงกะหรี่ ไส้ช็อคโกแลตอีกด้วย
(Source: Instagram)