สึงาวาระโนะมิจิซาเนะนั้นเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านการเรียนรู้ ทั้งที่ได้รับความผิดที่ตนไม่ได้ก่อแต่ก็ก็ยังทุ่มเทความสามารถของตนเองตลอดชีวิต ถือเป็นนักปราชญ์และนักการเมืองที่มีความสามารถมากทีเดียว เนื่องจากถูกยกย่องให้เป็น "เทพเจ้าด้านการเรียนรู้" รวมถึง "เทพเจ้าด้านการอุทศตน" ทำให้มีผู้มาขอพรโดยเฉพาะด้านการเรียนมากมาย อีกทั้งป้ายขอพร "เอมะ" นั้นก็มากมายจนนับไม่หมดเลยทีเดียว
อุโบสถหลักนั้นได้รับการสร้างใหม่ขึ้นในปี 1591 ใช้เวลาสร้าง 5 ปี ถูกจดทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยอุโบสถหลักนี้ตั้งอยู่บนสุสานของสึงาวาระโนะมิจิซาเนะ อุโบสถหลักนี้สามารถถ่ายทอดสถาปัตยกรรมสมัยโมโมยามะที่สวยงามได้เป็นอย่างดี จนไม่นึกเลยว่าจะผ่านมาแล้วถึง 400 ปี
สะพานโกะชิงเคียวสีแดงทั้งสามนั้นพาดผ่าน "สระน้ำชินจิอิเคะ" ที่มีโมเดลมาจากคันจิของอักษร "โคโคโระ (ใจ)" โดยเป็นสะพานที่แสดงถึงวิถีพุทธที่ชื่อว่า "ซันเซอิจิเน็น" ซึ่งสะพานไทโกะบาชิด้านหน้าหมายถึง "อดีต" สะพานฮิราบาชิตรงกลางนั้นหมายถึง "ปัจจุบัน" ส่วนสะพานไทโกะบาชิอันสุดท้ายนั้นหมายถึง "อนาคต" ซึ่งเป็นการชำระล้างร่างกายสำหรับผู้ที่มาสักการะก่อนที่จะไปยังอุโบสถหลักนั่นเอง
วัวทำจากหินที่อยู่ในเขตวัดนั่นคือ "องคามิอุชิ" เชื่อกันว่าหากลูบหัววัวนั้นจะทำให้หัวดีขึ้น ทั้งนี้สึงาวาระโนะมิจิซาเนะนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกับวัวอีกด้วย กล่าวกันว่าวัวที่ขนศพของสึงาวาระโนะมิจิซาเนะนั้นได้จอดลงยังสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับวัวในด้านของทิศทางญี่ปุ่น ซึ่งศาลเจ้าดาไซฟุก็ได้ถูกสร้างขึ้นยังที่แห่งนั้นอีกด้วย
ที่ศาลเจ้าดาไซฟุนั้นมีอาหารขึ้นชื่อนั่นก็คือ "อุเมะงะเอะโมจิ" โดยมีลักษณะเด่นคือเปลือกที่กรอบและใส้ถั่วแดงด้านในที่ร้อนและหวานอร่อย โดยระหว่างทางไปวัดนั้นมีร้านขาย "อุเมะงะเอะโมจิ" หลายร้านทีเดียวซึ่งรสชาติจะต่างกันเล็กน้อยในแต่ละร้าน สามารถทดลองทานเปรียบเทียบกันได้
สึงาวาระโนะมิจิซาเนะนั้นเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านการเรียนรู้ ทั้งที่ได้รับความผิดที่ตนไม่ได้ก่อแต่ก็ก็ยังทุ่มเทความสามารถของตนเองตลอดชีวิต ถือเป็นนักปราชญ์และนักการเมืองที่มีความสามารถมากทีเดียว เนื่องจากถูกยกย่องให้เป็น "เทพเจ้าด้านการเรียนรู้" รวมถึง "เทพเจ้าด้านการอุทศตน" ทำให้มีผู้มาขอพรโดยเฉพาะด้านการเรียนมากมาย อีกทั้งป้ายขอพร "เอมะ" นั้นก็มากมายจนนับไม่หมดเลยทีเดียว
อุโบสถหลักนั้นได้รับการสร้างใหม่ขึ้นในปี 1591 ใช้เวลาสร้าง 5 ปี ถูกจดทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยอุโบสถหลักนี้ตั้งอยู่บนสุสานของสึงาวาระโนะมิจิซาเนะ อุโบสถหลักนี้สามารถถ่ายทอดสถาปัตยกรรมสมัยโมโมยามะที่สวยงามได้เป็นอย่างดี จนไม่นึกเลยว่าจะผ่านมาแล้วถึง 400 ปี
สะพานโกะชิงเคียวสีแดงทั้งสามนั้นพาดผ่าน "สระน้ำชินจิอิเคะ" ที่มีโมเดลมาจากคันจิของอักษร "โคโคโระ (ใจ)" โดยเป็นสะพานที่แสดงถึงวิถีพุทธที่ชื่อว่า "ซันเซอิจิเน็น" ซึ่งสะพานไทโกะบาชิด้านหน้าหมายถึง "อดีต" สะพานฮิราบาชิตรงกลางนั้นหมายถึง "ปัจจุบัน" ส่วนสะพานไทโกะบาชิอันสุดท้ายนั้นหมายถึง "อนาคต" ซึ่งเป็นการชำระล้างร่างกายสำหรับผู้ที่มาสักการะก่อนที่จะไปยังอุโบสถหลักนั่นเอง
วัวทำจากหินที่อยู่ในเขตวัดนั่นคือ "องคามิอุชิ" เชื่อกันว่าหากลูบหัววัวนั้นจะทำให้หัวดีขึ้น ทั้งนี้สึงาวาระโนะมิจิซาเนะนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกับวัวอีกด้วย กล่าวกันว่าวัวที่ขนศพของสึงาวาระโนะมิจิซาเนะนั้นได้จอดลงยังสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับวัวในด้านของทิศทางญี่ปุ่น ซึ่งศาลเจ้าดาไซฟุก็ได้ถูกสร้างขึ้นยังที่แห่งนั้นอีกด้วย
ที่ศาลเจ้าดาไซฟุนั้นมีอาหารขึ้นชื่อนั่นก็คือ "อุเมะงะเอะโมจิ" โดยมีลักษณะเด่นคือเปลือกที่กรอบและใส้ถั่วแดงด้านในที่ร้อนและหวานอร่อย โดยระหว่างทางไปวัดนั้นมีร้านขาย "อุเมะงะเอะโมจิ" หลายร้านทีเดียวซึ่งรสชาติจะต่างกันเล็กน้อยในแต่ละร้าน สามารถทดลองทานเปรียบเทียบกันได้