ไซกะซากิ
(Source: hiroaki / PIXTA)
โอคุชินวะคะโนะอุระไคกัง
หาดที่เต็มไปด้วยหินผาและหน้าผาของ "เรียคุเดเฮ็นกัง (Ryokudeihengan)" เป็นหนึ่งในประเภทของหินแปรสภาพที่ชื่อว่า "อาโออิชิ (Aoishi)" ได้รับความนิยมจากความสวยงามมาตั้งแต่สมัยก่อน หินอาโออิชินั้นยังพบได้ใต้ทะเล ทำให้สามารถเห็นทะเลเป็นสีเขียวได้อีกด้วย ถือเป็นแหล่มชมวิวที่ได้รับเลือกให้เป็นอันดับหนึ่งของชายหาด จากการคัดเลือกหนึ่งร้อยที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในปี 1960
"สวนบังโฉะเทเอ็น" ที่อยู่บนแหลมทางทิศตะวันตก
ทางขอบทิศตะวันตกของไซกะซากินั้นมีสวนที่อยู่บนแหลมที่ยื่นออกไปในอ่าววะกะอุระ เนื่องจากแหลมนี้มีที่ตั้งของที่ป้อมสังเกตการณ์ในสมัยเอโดะ จึงถูกเรียกอีกชื่อว่า "บันโจะโนะฮานะ" ในปี 1863 นั้นคัทสึไคชูได้เคยมาเยี่ยมสถานที่แห่งนี้ด้วย ถือเป็นที่ที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม พร้อมกับดูเกาะแฝดซึ่งประกอบด้วยโอชิมะหรือเกาะผู้ชาย (Oshima) และนากาโนะชิมะหรือเกาะผู้หญิง (Nakanoshima) ได้อีกด้วย (ค่าเข้า 600 เยน)
(Source: 力太郎（むらジィ）の、 奥能登ブラブラ劇場・・)
ท่าเรือประมงไซกะซากิ
อ่าวที่เงียบสงบนั้นได้กลายมาเป็นท่าเรือประมง ทำให้ตัวเมืองได้แผ่ขยายออกไปในพื้นที่ลาดชันทางตอนเหนือของตัวอ่าว โดยตัวเมืองนั้นมีบ้านสีขาวเป็นจำนวนมาก สามารถเห็นทัศนียภาพสวยงามของท้องฟ้าและทะเลสีฟ้าได้ในที่แห่งนี้
(Source: よっちんのフォト日記)
ไซกะซากิโทได
หอประภาคารปลดระวางที่ตั้งอยู่บนผา ถูกเรียกว่าเป็นรังเหยี่ยวของเมืองไซกะซากิ หากขึ้นไปยังประภาคารแห่งนี้ก็จะสามารถเห็นทิวทัศน์ของเกาะต่างที่อยู้ไกล เช่น เกาะอาวาจิ รวมถึงสวนบันไดได้อีกด้วย ในไซกะซากินั้นมีเรื่องเล่าต่อกันมาตั้งแต่สมัยก่อนว่าสามารถเห็นเม็ดแสงหลากสีตกลงมาจากพระอาทิตย์ยามเย็นได้ในวันฮิกังของฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงซึ่งถูกเรียกกันว่า "ฮานะงะฟุรุ" ปัจจุบันก็ยังคงมีผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชมพระอาทิตย์ตกดินในวันฮิกังอีกด้วย
(Source: 左：blog.s_t)
(Source: Sum / PIXTA)
(Source: hiroaki / PIXTA)
โอคุชินวะคะโนะอุระไคกัง
หาดที่เต็มไปด้วยหินผาและหน้าผาของ "เรียคุเดเฮ็นกัง (Ryokudeihengan)" เป็นหนึ่งในประเภทของหินแปรสภาพที่ชื่อว่า "อาโออิชิ (Aoishi)" ได้รับความนิยมจากความสวยงามมาตั้งแต่สมัยก่อน หินอาโออิชินั้นยังพบได้ใต้ทะเล ทำให้สามารถเห็นทะเลเป็นสีเขียวได้อีกด้วย ถือเป็นแหล่มชมวิวที่ได้รับเลือกให้เป็นอันดับหนึ่งของชายหาด จากการคัดเลือกหนึ่งร้อยที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในปี 1960
"สวนบังโฉะเทเอ็น" ที่อยู่บนแหลมทางทิศตะวันตก
ทางขอบทิศตะวันตกของไซกะซากินั้นมีสวนที่อยู่บนแหลมที่ยื่นออกไปในอ่าววะกะอุระ เนื่องจากแหลมนี้มีที่ตั้งของที่ป้อมสังเกตการณ์ในสมัยเอโดะ จึงถูกเรียกอีกชื่อว่า "บันโจะโนะฮานะ" ในปี 1863 นั้นคัทสึไคชูได้เคยมาเยี่ยมสถานที่แห่งนี้ด้วย ถือเป็นที่ที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม พร้อมกับดูเกาะแฝดซึ่งประกอบด้วยโอชิมะหรือเกาะผู้ชาย (Oshima) และนากาโนะชิมะหรือเกาะผู้หญิง (Nakanoshima) ได้อีกด้วย (ค่าเข้า 600 เยน)
(Source: 力太郎（むらジィ）の、 奥能登ブラブラ劇場・・)
ท่าเรือประมงไซกะซากิ
อ่าวที่เงียบสงบนั้นได้กลายมาเป็นท่าเรือประมง ทำให้ตัวเมืองได้แผ่ขยายออกไปในพื้นที่ลาดชันทางตอนเหนือของตัวอ่าว โดยตัวเมืองนั้นมีบ้านสีขาวเป็นจำนวนมาก สามารถเห็นทัศนียภาพสวยงามของท้องฟ้าและทะเลสีฟ้าได้ในที่แห่งนี้
(Source: よっちんのフォト日記)
ไซกะซากิโทได
หอประภาคารปลดระวางที่ตั้งอยู่บนผา ถูกเรียกว่าเป็นรังเหยี่ยวของเมืองไซกะซากิ หากขึ้นไปยังประภาคารแห่งนี้ก็จะสามารถเห็นทิวทัศน์ของเกาะต่างที่อยู้ไกล เช่น เกาะอาวาจิ รวมถึงสวนบันไดได้อีกด้วย ในไซกะซากินั้นมีเรื่องเล่าต่อกันมาตั้งแต่สมัยก่อนว่าสามารถเห็นเม็ดแสงหลากสีตกลงมาจากพระอาทิตย์ยามเย็นได้ในวันฮิกังของฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงซึ่งถูกเรียกกันว่า "ฮานะงะฟุรุ" ปัจจุบันก็ยังคงมีผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชมพระอาทิตย์ตกดินในวันฮิกังอีกด้วย
(Source: 左：blog.s_t)
(Source: Sum / PIXTA)
