ถนนสายนักปราชญ์

(Source : pixta)

"เททสึกักคุโนะมิจิ" หรือถนนสายนักปราชญ์ เส้นทางที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "ร้อยทางเดินชื่อดังของญี่ปุ่น" ตั้งชื่อขึ้นจากการที่ทางนี้เป็นเส้นทางที่นักปรัชญาเดินทางไปพร้อมกับคร่ำคิดไป บนเส้นทางเดิน 2 กิโลเมตรที่ปูด้วยหินข้างคูน้ำแห่งนี้นั้น มีต้นซากุระถูกปลูกอยู่ถึงราว 450 ต้น ช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นจะมีอุโมงค์ซากุระสองข้างฝั่งน้ำ ถือเป็นจุดซากุระชื่อดังแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ โดยนอกจากซากุระในฤดูใบไม้ผลิแล้ว ยังมีหิ่งห้อยในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และทิวทัศน์หิมะในฤดูหนาว สามารถชมทัศนียภาพที่ต่างกันได้เมื่อมาเยี่ยมทุกครั้ง นอกจากนี้ยังมีวัดที่มีประวัติศาสตร์ รวมถึงคาเฟ่หรือร้านอาหารตามเส้นทางสายนี้อีกด้วย

(Source: pixta)

ซากุระฤดูใบไม้ผลิ

ทางเดินสายปรัชญาที่รู้สึกถึงความอิ่มเอิบของธรรมชาติทุกครั้ง โดยในฤดูใบไม้ผลิจะสามารถเดินท่ามกลางอุโมงค์ซากุระได้ ทำให้มีผู้คนมากมายมาเยี่ยมชม ภาพซากุระที่สะท้อนผืนน้ำ และ "อิคาดะ" หรือกลีบซากุระที่ร่วงหล่นและลอยไปตามกระแสน้ำ ให้ความรู้สึกถึงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

(Source: pixta)

ใบไม้เปลี่ยนสีฤดูใบไม้ร่วง

ซากุระช่วงฤดูใบไม้ผลิในถนนสายนักปราชญ์แห่งนี้นั้นถือว่ามีชื่อเสียงมาก แต่ใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นก็ควรค่าแก่การชมไม่แพ้กัน โดยใบเมเปิลนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงาม ไม่ว่าจะซากุระหรือใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยทั้งคู่ ทางใต้สุดของทางเดินสายปรัชญาแห่งนี้นั้นจะมีวัด "เอคันโด (Eikando)" ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีงดงาม ถือเป็นจุดเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังอีกด้วย

(Source: pixta)

ร้านค้าและคาเฟ่ข้างเส้นทางเดิน

ร้านค้าและคาเฟ่ข้างทางมากมายที่ทำให้อยากแวะเข้าไปถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของทางเดินสายปรัชญาแห่งนี้ ไม่ว่าจะแวะชมร้านขนมญี่ปุ่นเก่าแก่ หรือลองพักดื่มกาแฟที่ร้านคาเฟ่ ก็อาจจะเป็นความทรงจำที่งดงามในเมืองเกียวโตได้ไม่ยาก