โอชิโนะฮักไก (Oshinohakkai)

(Source : pixta)

แต่เดิมเป็นทะเลสาบโอชิโนะซึ่งได้เหือดแห้งไปกลายเป็นลุ่มน้ำ หลังจากนั้นน้ำพุซึ่งมีต้นสายมาจากภูเขาไฟฟูจิได้ผุดขึ้นเป็นทางออกในบ่อน้ำแห่งนี้จึงทำให้เกิดโอชิโนะฮักไกขึ้นมา ประกอบด้วยบ่อน้ำทั้งหมด 8 บ่อ ได้แก่ เดะกุจิโนะอิเคะ โอคามะอิเคะ โซโคนาชิอิเคะ โจชิอิเคะ วะคุอิเคะ นิโงริอิเคะ คามะอิคะ และ โชบุอิเคะ ซึ่งแต่ละอันนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกทางวัฒนธรรมภูเขาไฟฟูจิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรน์ทางธรรมชาติของประเทศ โดยรอบนั้นยังมีบ้านหลังคากระเบื้องดิน ที่ให้ความรู้สึกราวกับญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังมีร้านค้ามากมายที่บริการกาแฟหรือโซบะที่ใช้น้ำพุร้อนในการทำ

(Source: pixta)

บ่อน้ำทั้ง 8

โอชิโนะฮักไกที่เกิดจากน้ำพุที่ใช้น้ำปลายสายของภูเขาไฟฟูจิ ไม่ว่าจะบ่อไหนก็มีน้ำสวยงามใสสามารถมองทะลุได้ ซึ่งความใสของบ่อน้ำนั้นทำให้เห็นปลาที่ว่ายอยู่ราวกับกำลังบินบนท้องฟ้าเลยทีเดียว โดยในช่วงเช้าที่มีหมอกลงนั้นบ่อน้ำจะมีสีน้ำเงินใสซึ่งงดงามเป็นอย่างมาก

(Source: pixta)

บ้านญี่ปุ่นโบราณ

รอบๆโอชิโนะฮักไกนั้นยังคงหลงเหลือบ้านญี่ปุ่นโบราณอยู่ ทำให้สามารถเห็นทัศนียภาพแบบเก่าๆของญี่ปุ่นได้ ด้วยฉากหลังที่มีภูเขาไฟฟูจิประกอบกับบ้านทรงโบราณและกังหันน้ำ จึงทำให้ทัศนียภาพที่เห็นนั้นควรค่าแก่การชมเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารที่อยู่ในบ้านทรงโบราณเหล่านี้อีกด้วย

(Source: なまらいい)

โอชิโนะฟูจิ

หมู่บ้านโอชิโนะมูระในโอชิโนะฮักไกนั้น ถือเป็นสถานที่ที่สามารถเห็นฟูจิได้อย่างงดงาม ทำให้นักถ่ายรูปและนักวาดภาพมากมายมาเยี่ยมชม จนในที่สุดก็ได้ถูกเรียกว่า "โฮชิโนะฟูจิ" ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็สามารถชมทัศนียภาพที่งดงามได้ ซึ่งโดยเฉพาะฤดูหนาวนั้นจะแนะนำเป็นพิเศษ เนื่องจากทัศนียภาพหิมะกับหมูบ้านญี่ปุ่นนั้นมีความกลมกลืนกันมาก จนโดดเด่นงดงามกว่าภาพฟูจิเลยทีเดียว

(Source: pixta)

โซบะที่ทำด้วยน้ำพุจากภูเขาไฟฟูจิ

โดยรอบโอชิโนะฮักไกนั้นมีร้านโซบะมากมายที่ใช้น้ำพุจากภูเขาไฟฟูจิที่ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยแหล่งน้ำชื่อดังของญี่ปุ่น โดยที่นิยมนั้นได้แก่ ข้าวราดหน้า "บุคคาเคะ (Bukkake)" ของ "เท็นโชอัง (Tenshoan)" นอกจากนี้ "ยากิมิโสะ" มิโสะย่างบนช้อนชาโมจิก็ถือเป็นอาหารที่ควรลิ้มลอง