ไทย
ไทย
TOP
Feature
ที่นี่ญี่ปุ่นหรือกรีซ!? เที่ยวสวนโอลีฟในเกาะโชโดชิมะ
2021-12-05

ที่นี่ญี่ปุ่นหรือกรีซ!? เที่ยวสวนโอลีฟในเกาะโชโดชิมะ

สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินจะพาทุกคนมาเที่ยวที่จังหวัดคากาวะ และสถานที่จะแนะนำในวันนี้อยู่ในเกาะที่มีชื่อว่า "โชโดชิมะ(小豆島)" เกาะแห่งนี้เป็นเกาะแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดคากาวะ ที่สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อยู่มากมาย ในฤดูใบไม้ร่วงก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม ฤดูกาลอื่นก็เต็มไปด้วยแหล่งธรรมชาติอันงดงาม สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และที่จะแนะนำในวันนี้คือ "สวนโอลีฟ(オリーブ園)" ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่ารักแห่งหนึ่งในเกาะโชโดชิมะนี้ ที่นี่มีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย

 

 

การเดินทางไปยังสวนแห่งนี้ หากคุณเดินทางจากโตเกียวค่อนข้างจะใช้เวลาพอสมควร ทางที่ดีควรพักที่นี่และท่องเที่ยวซักวันหนึ่ง ก่อนอื่นเริ่มจากการนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบิน Takamatsu(高松) หากคุณเดินทางจากสนามบินฮาเนดะ จังหวัดโตเกียวจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที หากเดินทางจากโอซาก้าหรือนาโกย่าใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม.

 

 

หลังจากที่ออกมาจากสนามบินแล้ว ที่บริเวณทางออกสนามบินจะมีรถบัสจอดอยู่เป็นจำนวนมาก คุณสามารถเลือกขึ้นบัสสำหรับนั่งไปยังท่าเรือ ซึ่งคือสถานีรถไฟ Takamatsu

 

 

ค่ารถบัสอยู่ที่ 780 เยน สามารถตรวจสอบรอบรถบัสได้ที่นี่

 

 

เมื่อมาถึงแล้ว คุณจะได้ลงที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 3 *อาจมีการเปลี่ยนแปลง

 

 

คุณจะพบกับป้ายบอกทางไปยังท่าเรือด้วยตัวอักษรคันจิขนาดใหญ่ หากคุณอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ก็ไม่ต้องกังวลไป

 

 

ตรงป้ายขนาดเล็กนี้มีภาษาอังกฤษเขียนไว้ ให้คุณเดินไปตามทางเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางตลอดทาง ซึ่งเข้าใจง่ายแม้จะมาเป็นครั้งแรก

 

 

เมื่อมาถึงบริเวณท่าเรือเฟอร์รี่แล้ว จะพบกับป้ายบอกรอบเรืออยู่

 

 

วิธีการเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะโชโดชิมะนั้นมีหลายทางด้วยกัน คุณจำเป็นจะต้องตรวจสอบรอบการเดินเรือของแต่ละท่าเรือ เพราะแต่ละท่าเรือนั้นเป็นคนละบริษัทกัน.. ท่าเรือที่ใกล้กับสวนโอลีฟนั้นคือ Ikeda และ Tonosho หากคุณต้องการนำรถยนต์ข้ามเกาะจำเป็นต้องจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ ส่วนผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามฝั่งเท่านั้นไม่จำเป็นต้องจองตั๋วล่วงหน้า ●รอบเรือของท่า Tonoshoรอบเรือของท่า Ikeda

 

 

รอบเรือที่ตรงตามความต้องการของแอดในครั้งนี้คือท่าเรือ Tonosho ซึ่งท่าเรืออยู่ห่างจากสวนหน่อย แต่ไม่ต้องเสียเวลารอรอบเรือนาน

 

 

คุณสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เคาท์เตอร์ซื้อตั๋วได้โดยตรงเพื่อความแน่ใจ

 

 

หรือซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งได้เลยที่เครื่องซื้อตั๋ว ซึ่งราคาตั๋วแบบเหมาไปกลับนั้นถูกกว่าขาเดียว หากคุณมีกำหนดการข้ามฝั่งจากท่าเรือเดิม และเวลาที่แน่นอนแนะนำให้ซื้อแบบไปกลับ ราคาเที่ยวเดียว 700 เยน ราคาไปกลับ 1330

 

 

บริเวณที่รอเรือนั้นมีความกว้างขวาง สามารถนั่งพักได้อย่างสบาย

 

 

หากคุณไม่แน่ใจว่ามาถูกท่าเรือไหม ยังสามารถตรวจสอบแผนที่ได้ดังนี้

 

 

นี่คือเรือที่จะขึ้นในครั้งนี้

 

 

ภายในเรือเฟอร์รี่แบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นในนั้นเป็นที่นั่งโซฟานั่งสบาย อบอุ่น และมีร้านอาหารขายอุด้งอยู่ด้วย

 

 

จะดูทีวีก็ได้ หรือจะชมวิวที่ฝั่งหน้าต่างก็ได้

 

 

ที่ชั้นดาดฟ้ายังมีที่นั่งสำหรับรับลมชมวิวทะเลกับภูเขาอีกด้วย ในช่วงฤดูร้อนหรือช่วงที่อากาศไม่หนาวมาก ค่อนข้างสดชื่นเลย แต่ในฤดูหนาวคุณควรใส่เสือกันความหนาวให้เรียบร้อยก่อนขึ้นมายังชั้นบน

 

 

จังหวัดคากาวะนั้นมีอุด้งเป็นของขึ้นชื่อ ระหว่างที่นั่งเรือ 35 นาที ก็เลยขอทานรองท้องก่อน

 

 

ระหว่างนั่งเรือคุณสามารถชมวิวเกาะที่อยู่ห่างออกไปได้เช่นนี้

 

เมื่อมาถึงท่าเรือ Tonosho แล้ว คุณสามารถนั่งแท็กซี่มาลงที่สวนโอลีฟได้ในราคา 4000 เยน ในเวลา 15-20 นาที หรือนั่งรถบัสประมาณ 30 นาทีได้

 

SHODOSHIMA OLIVE GARDEN

 

เมื่อมาถึงแล้วคุณจะพบกับป้าย SHODOSHIMA OLIVE GARDEN

 

 

ภาในสวนจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 ส่วนด้วยกัน ภายในสวนไม่ได้มีบริเวณกว้างมาก สามารถเดินไปยังแต่ละจุดได้ง่ายดาย

 

 

บรรยากาศภายในสวนนั้นให้บรรยากาศแตกต่างจากญี่ปุ่นทั่วไป ที่สวนแห่งนี้ยังเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง Kiki’s Delivery Service หรือในชื่อภาษาไทยคือ “แม่มดน้อยกิกิ” ฉบับคนจริงอีกด้วย

 

 

ลานอีเวนท์

 

ตู้ไปรษณีย์สีโอลีฟ ตัวแทนของสันติภาพ และความสุข

 

จุดเด่นของที่นี่คือตู้ไปรษณีย์สีโอลีฟที่มีเพียงที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งสีโอลีฟนั้นหมายถึงสันติภาพ และความสุขอีกด้วย ทำไมที่นี่ถึงมีตู้ไปรษณีย์อยู่ด้วย เราจะมาเฉลยในตอนช่วงท้ายของบทความนะ

 

ชมกังหันลมกรีซ สัญลักษณ์ของสัมพันธไมตรีของญี่ปุ่นกับกรีซ

 

และจุดที่ห้ามพลาดของสวนแห่งนี้คือ กังหันลมกรีซ!!

 

 

นี่คือจุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาดของสวนโอลีฟเลยก็ว่าได้

 

 

คุณสามารถเช่าไม้กวาดแบบเรื่องแม่มดน้อยกิกิมาถ่ายรูปกับกังหันลมได้เช่นนี้

 

 

โดยสามารถเช่าได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

 

 

ไม้กวาดน่ารักมากเลย♡

 

 

ต่อไปเรามาที่อาคาร Olive Memorial Hall กันดีกว่า

 

 

เมื่อเข้ามาคุณจะพบกับรูปปั้นเช่นนี้

 

แวะทานอาหารที่ทำจากโอลีฟ

 

เมื่อหันไปทางซ้ายจะพบกันร้านขายของหวานอยู่ คุณสามารถซื้อขนมทาน หรือซื้อโปสการ์ดลายน่ารักพิเศษเฉพาะที่นี่ส่งผ่านทางตู้ไปรษณีย์สีโอลีฟได้!

 

 

มาถึงสวนโอลีฟแล้วอย่าลืมทานขนมและอาหารที่ทำจากโอลีฟกันด้วยนะ เพราะที่นี่ปลูกเอง สดใหม่ อร่อยกว่าที่อื่นเลย! ไอศครีมโอลีฟก็อร่อยมากเลย

 

 

โซเม็งสีเขียวน่ารักนี่คือโซเม็งที่ทำจากโอลีฟ มีความหอมอร่อยมากเวลาทาน

 

 

หรือผู้ที่ไม่ได้มีความชอบในโอลีฟก็ยังสามารถทานเมนูปกติทั่วไปได้เช่นกัน ในเมนูจะถูกราดด้วยน้ำมันมะกอกแสนอร่อยของสวนแห่งนี้

 

 

ไอศครีมสีเขียวน่ารักมากเลย แถมยังมีความหอมโอลีฟมะกอก

 

ตามหาใบโอลีฟหัวใจพร้อมกับทำที่คั่นหนังสือออิริจินอลของตัวเอง หรือส่งโปสการ์ด

 

และนี่คือจุดสำหรับเลือกซื้อโปสการ์ดลวดลายออริจินอลของสวน

 

 

คุณสามารถเด็ดใบโอลีฟรูปหัวใจจากในสวนมาทำที่คั่นหนังสือออริจินอลของตัวเองได้อีกด้วยนะ

 

 

ราคาในการทำที่คั่นหนังสืออยู่ที่ 300 เยน

 

แวะซื้อของฝาก ผลิตภัณฑ์จากโอลีฟแสนอร่อยของเกาะนี้

 

มาถึงนี่แล้ว อย่าลืมแวะซื้อของฝากที่ทำจากโอลีฟอร่อยๆของที่นี่ด้วยนะ มีทั้งที่หุงข้าวโอลีฟ โซเม็งโอลีฟ โอลีฟออยล์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมากมายที่ทำจากโอลีฟ

 

 

แม้แต่ผลิตภัณฑ์ความงามที่ทำจากโอลีฟก็มีให้เลือกจำนวนมาก ลองแวะซื้อเป็นของฝากกันดูนะคะ

 

 

สวนโอลีฟน่ารักแห่งนี้มีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการชมสวน สัมผัสบรรยากาศแบบกรีซ เก็บใบโอลีฟมาทำที่คั่นหนังสือ ทานอาหารที่ใช้น้ำมันมะกอกอร่อยๆที่นี่ ถ่ายรูปกับกังหันลมกรีซ มาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้าอย่าลืมลองแวะมาเที่ยวกันดูนะคะ

 

รายละเอียด SHODOSHIMA OLIVE GARDEN

เวลาทำการ: 8:30-17:00 เว็บไซต์ทางการ: https://www.1st-olive.com Google map
★ คูปองส่วนลดในการช็อปปิ้งญี่ปุ่น หรือโปรแกรมแปลภาษาสินค้าต้อง IKIDANE App★ iOS / AndroidIKIDANE NIPPON LINE@
หากชอบบทความของเรา สามารถติดตาม Facebook FanPage ของเราได้