ASAKUSA, SENSOJI
สถานที่ท่องเที่ยวหลักในโตเกียว ที่หากคุณเป็นผู้มาเที่ยวโตเกียวเป็นครั้งแรกจะต้องได้มาเยือนที่นี่อาซากุซะ สถานนีที่มีวัดโคมแดง หรือวัดเซ็นโซจิ ที่ปกติเป็นสถานีที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากมาเยี่ยมเยือนตลอดปี ตอนนี้กลับเป็นสถานีที่โล่งไร้ผู้คนอย่างที่เห็น
ใครจะคิดว่าแค่เวลา 21:30 สถานีอาซากุซะที่มีผู้คนหนาแน่นตลอดเวลา ตอนนี้จะมีผู้คนสัญจรน้อยขนาดนับคนได้
ทางออกไปยังประตูวัดเซ็นโซจิที่ปกติมีผู้คนหนาแน่น ตอนนี้กลับถ่ายรูปได้อย่างไม่ต้องกังวลผู้คน เพราะไม่มีผู้คนสัญจรไปมาเลย!
ทางเข้าประตู Kaminarimon ที่ปกติมีผู้คนหนาแน่น ตอนนี้มีเพียงคนที่อยู่อาศัยในแถบนี้ กับวัยรุ่นที่ออกมาเดินเล่นถ่ายรูปเมืองที่ไร้ผู้คน
ร้านค้าที่ปิดตั้งแต่ 20:00 ในช่วงภาวะฉุกเฉิน
ร้านค้าในญี่ปุ่นแม้จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล แต่มีอีกหลายกิจการที่ได้รับผลกระทบเป็นห่วงโซ่
แม้แต่รถยังแถบจะไม่มีการสัญจร โตเกียวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองไร้การหลับไหล ตอนนี้หลับมาเป็นระยะเวลานานแล้ว
ประตูคามินาริมง ทางเข้าวัดเซ็นโซจิ ที่ปกติจะมีผู้คนมาถ่ายรูปกับโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่นี้ ตอนนี้ว่างจนมาถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ แม้ว่าจะมีการปิดไฟบริเวณโคมไฟก็ตาม แต่ตามทางเดินยังคงเปิดตามปกติ ใครที่อยู่ญี่ปุ่นในช่วงนี้ถือโอกาสแวะมาถ่ายกันดูนะคะ
ภาวะฉุกเฉินของประเทศญี่ปุ่นเป็นแบบขอความร่วมมือ รายละเอียดของภาวะฉุกเฉินในช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 คือ งดออกนอกสถานหลัง 20:00 ร้านค้าปิด 20:00 และงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ผู้คนส่วนมากให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ก็มีวัยรุ่นจำนวนหนึ่งที่ไม่ให้ความร่วมมือ แล้วยังมีการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มาดื่มกันเป็นกลุ่มตามข้างถนนแทน
ในขณะที่ร้านค้าหลายแห่งยังคงให้ความร่วมมือแล้วปิดไปเรื่อยจนกว่จะหมดภาวะฉุกเฉิน
บริเวณหน้าวัดเซ็นโซจิที่ปกติมีผู้คนพลุกพล่าน และเต็มไปด้วยควันธูป กลายเป็นสถานที่ไร้ผู้คนอย่างที่เห็น
TOKYO STATION
มาต่อที่สถานีโตเกียว เป็นเมืองออฟฟิสที่ปกติมีผู้คนทำงานจนถึงดึก จึงทำให้มีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมากตลอดเวลา รวมถึงเป็นสถานีสำหรับการต่อรถไฟชินคังเซ็นไปยังจังหวัดต่างๆ เรียกได้ว่าสถานีนี้เป็นศูนย์กลางแห่งการสัญจรของจังหวัดโตเกียว
สถานีโตเกียวประตูมารุโนะอุจิ ที่ปกติมีผู้คนพลุกพล่าน ตอนนี้ไร้ซึ่งผู้คน
ห้างสรรพสินค้าที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอย่าง kitte แม้แต่หน้าตึกเองก็ไร้ซึ่งผู้คนสัญจรไปมา
ด้านหน้าสถานีโตเกียวเองก็เช่นกัน อีกทั้งภาวะฉุกเฉินในรอบนี้ของปี 2021 ผู้ว่าราชการจังหวัดโตเกียวยังสั่งให้ปิดไฟตามแลนด์มาร์คในโตเกียว ซึ่งสถานีโตเกียวเองก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่ามีไฟเปิดเพียงบริเวณทางเข้าสถานี แต่ตัวอาคารที่เคยสว่างไสวนั้นมืดมนไม่เหมือนอย่างที่เคย
ตึกบางส่วนยังมีการเปิดไฟไว้ แต่ผู้คนนั้นน้อยจนสามารถนับคนได้เลยค่ะ
และเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของโตเกียวคงจะหนีไม่พ้น Tokyo Olympic ที่ทางญี่ปุ่นได้เตรียมการล่วงหน้ามาเป็นอย่างดีหลายปี แต่กลับเจอโรคระบาด COVID-19 จนตอนนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ และมีครบทุกสายพันธู์ ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศในช่วงพ.ค.2021 ยังอยู่ที่ 4000 กว่ารายต่อวันไม่มีการเปลี่ยนแปลง วัคซีนก็ยังไม่มีการฉีดอย่างทั่วถึง พอเห็นเครื่องนับถอยหลังวันจัดโอลิมปิกแล้วอดปวดใจไม่ได้เลยค่ะ ตอนนี้โตเกียวไม่พร้อมสำหรับจัดโอลิมปิกเลย แต่ทางสมาคมโอลิมปิกยังคงบังคับให้โตเกียวจัดต่อไป อีกทั้งหากญี่ปุ่่นไม่จัดก็จะขาดทุนยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
อาคารสถานีโตเกียวมารุโนะอุจิ ที่ปิดไฟนั้นไม่สวยงามอย่างที่เคย เฝ้ารอวันที่สถานการณ์ของโตเกียวจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววัน
UENO
สถานีอุเอโนะก็เป็นหนึ่งในสถานียอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมถึงเป็นแหล่งการค้าในโตเกียวเอง ตอนนี้เมื่อถึงเวลา 20:00 ผู้คนก็น้อยจนแปลกตาเช่นกัน
สถานีที่มีผู้คนพลุกพล่าน ตอนนี้มีเพียงผู้คนที่ทำงานล่วงเวลากลับบ้านจำนวนนึงเท่านั้น
แม้แต่ทางเดินในสถานียังไร้ซึ่งผู้คน
บริเวณหน้าสถานีมีผู้คนประปราย แต่ถือว่าน้อยกว่าปกติอย่างมาก
ทางม้าลายหน้าสถานีที่ปกติมีผู้คนจำนวนมากข้ามตลอดเวลา ตอนนี้มีเพียงแท็กซี่จอดรอผู้คน กับคนจำนวนนึงเท่านั้นที่เดินสัญจรไปมา
บริเวณหน้าทางเข้าสวนอุเอโนะก็ไร้ซึ่งผู้คน เป็นบรรยากาศที่มองแล้วอดเหงาไม่ได้จริงๆค่ะ
ทางเข้าสถานี JR UENO ที่มีผู้คนน้อยจนนับได้
SHIBUYA
มาต่อกันที่สถานีชิบูย่า ซึ่งเป็นเมืองของวัยรุ่น หากดูจากรูปต่อไปนี้จะทราบว่าเป็นเมืองที่ยังมีผู้คนเยอะกว่าเมืองอื่นๆข้างต้น และโดยเฉพาะช่วงภาวะฉุกเฉินยิ่งมีวัยรุ่นที่อัดอั้นออกมาปลดปล่อย หรือดื่มเหล้าตามข้างถนนจำนวนมาก รวมถึงยังมีประท้วงโควิดไม่ใส่แมสก์อีกด้วย ค่อนข้างเป็นสถานีที่รวมผู้คน crazy ในช่วงภาวะฉุกเฉินนี้มาก
ช่วงเวลาที่ถ่ายภาพเป็นช่วงเวลาประมาณก่อนเที่ยงคืน จะเห็นได้ว่ามีวัยรุ่นจำนวนมากทยอยกลับบ้าน ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากกว่าสถานีที่กล่าวมาข้างต้น
บริเวณห้าแยกชิบูย่ารัฐบาลได้มีการสั่งปิดไฟจึงทำให้มืดกว่าปกติ แม้ว่าจะมืดก็ตามแต่เราจะสามารถพบวัยรุ่นที่ไม่ใส่แมสก์ออกมาเดินเล่นเป็นจำนวนมาก เป็นการต่อต้านรัฐบาลที่ออกภาวะฉุกเฉินอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลาหนึ่งปีแต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผู้คนในชิบูย่าส่วนใหญ่เป็นวัย 10-30 ซะส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อน้อย หรือเป็นผู้ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการเสียมากกว่า โดยมิได้หวาดกลัวเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดในญี่ปุ่นขณะนี้
บริเวณรูปหน้าน้องหมาฮาจิโกะที่ปกติมีผู้คนพลุกพล่านตลอด 24 ชม. ตอนนี้กลับไร้ซึ่งผู้คน
หากมองจากภาพอาจจะไม่สามารถรับรู้ได้มากนักว่าห้าแยกชิบูย่าได้ปิดไฟอยู่ สังเกตุที่บริเวณป้ายไฟโฆษณาขนาดใหญ่จำนวนมากถูกปิดอยู่ รวมถึงข้างถนนรอบๆนั้นถูกปิดอยู่ เหลือไว้เพียงถนนข้างๆสำหรับเดินสัญจรกลับมายังสถานีรถไฟเท่านั้น
ห้าแยกชิบูย่าที่ผู้คนน้อยยังคงดำเนินต่อไปโดยมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของภาวะฉุกเฉินในเร็วๆนี้ แม้ว่าในตอนนี้ญี่ปุ่นพยายามเร่งฉีดวัคซีนอยู่ แต่ยังคงต้องรอการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงต่อไป จนกว่าผู้คนจะได้รับวัคซีนคาดว่าจะยังคงต้องอยู่ในภาวะฉุกเฉินไปอีกระยะหนึ่ง
หวังว่าเราจะได้พบกับประเทศญี่ปุ่นที่เราเคยได้พบอีกครั้งหนึ่ง
★ คูปองส่วนลดในการช็อปปิ้งญี่ปุ่น หรือโปรแกรมแปลภาษาสินค้าต้อง IKIDANE App★ iOS / Android ★IKIDANE NIPPON LINE@★
หากชอบบทความของเรา สามารถติดตาม Facebook FanPage ของเราได้
