ไทย
ไทย
TOP
Feature
ญี่ปุ่นเองก็เคยผ่าน pm2.5 มาแล้ว
2020-01-24

ญี่ปุ่นเองก็เคยผ่าน pm2.5 มาแล้ว

ในอดีตญี่ปุ่นเองก็เคยมียุคที่ฝุ่นควันฟุ้งอากาศสกปรกเช่นกัน ในไทยตอนนี้กำลังเผชิญกับปัญหาของฝุ่น pm2.5 ทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงอากาศที่สกปรกของไทยว่ามาถึงจุดที่ควรจะแก้ไขมันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่เราต้องเริ่มจากตัวเราเองและค่อยๆช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือในการแก้ไข

 

วันนี้เราจะมาเล่าประวัติความเป็นมาว่าญี่ปุ่นเองก็เคยพบปัญหา pm2.5 เช่นกัน พวกเขาผ่านมันมาได้อย่างไร

 

บรรยากาศขมุกขมัว อากาศเป็นพิษในช่วงปี1944 โชวะที่19

ช่วงปีค.ศ.1868-1912 ญี่ปุ่นได้มีเป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมประเทศให้ทันสมัยใกล้เคียงกับยุโรป จึงทำให้เกิดการก่อสร้างทั้งโรงงานและอุตสาหกรรมต่างๆ ขึ้นมากมายนี่เป็นจุดเริ่มต้นของ pm2.5 ในญี่ปุ่น เมื่อเข้าสู่ช่วงปีค.ศ.1912-1926 ธุรกิจอุตสาหกรรมปั่นด้าย, อุตสาหกรรมการกลั่นทองแดง, อุตสาหกรรมเหล็ก ได้ขยายกว้างมากขึ้นจึงเป็นเหตุให้ pm2.5 เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงมีผู้ใช้รถยนต์เพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้อากาศเป็นพิษรุนแรงยิ่งขึ้น

 

โดยเฉพาะช่วงปีค.ศ.1945 หลังสงครามโลกครั้งที่2จบลง ยิ่งมีการพยายามปรับปรุงซ่อมแซมพัฒนาเมืองมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก

 

ญี่ปุ่นเคยมีควันพิษเยอะขนาดต้นไม้ยังตาย ภูเขาโล้นทั้งลูก!!

ช่วงปีค.ศ.1965-1974 เป็นช่วงพีคของสารพิษของเสียในอากาศและน้ำ อาจจะรุนแรงกว่า pm2.5 ในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะอากาศเป็นพิษขนาดต้นไม้ตายทั้งภูเขาเลยค่ะ เพราะระบบนิเวศน์ของบริเวณใกล้โรงงานทั้งหมดถูกทำลายลง อากาศที่เป็นพิษ น้ำที่มีสารพิษเจือปน ฝนที่เป็นกรด ต้นไม้ตาย ประชาชนต่างออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษนี้

 

จนในที่สุดก็ได้มีการออกกฏหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และออกกฏหมายเข้มงวดกับโรงงานมากขึ้น

 

ช่วงปีค.ศ.1974ยุคของน้ำมัน

ช่วงปีค.ศ.1974 เป็นยุคที่ญี่ปุ่นใช้พลังงานน้ำมันเป็นหลักในการทำอุตสาหกรรม รวมถึงรถยนต์ที่ใช้น้ำมันพ่นไอเสีย อุตสาหกรรมโรงงานยังคงดำเนินต่อไปควันพิษยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องแม้จะมีกฏหมายออกมาแล้วก็ตาม

 

ช่วงปีค.ศ.1985-2000 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น

เมื่อกฏหมายการปล่อยควันเสียและน้ำเสียของโรงงานมีการคุมเข้มมากขึ้น มีการรณรงค์ให้บริษัทต่างๆประหยัดพลังงาน จึงทำให้มีปริมาณควันพิษและน้ำเสียลดลงก็จริงแต่ปัญหา pm2.5 ที่เกิดจากไนโตรเจนออกไซด์กลับพุ่งสูงขึ้นเพราะท่อไอเสียจากรถยนต์ รุนแรงถึงขั้นมีผู้ป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง 

 

เมื่อปัญหานี้กลายเริ่มกลายเป็นปัญหาระดับโลก

ช่วงปีค.ศ.1990 ปัญหาสภาพแวดล้อมได้กลายเป็นที่ตระกันในทั่วโลก ปัญหาที่พบในแต่ละประเทศมีทั้งชั้นโอโซนทีบางลงทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น เกิดภาวะโลกร้อน ในบางประเทศถึงกับมีฝนกรด ญี่ปุ่นจึงได้เริ่มแก้ไขปัญหาในประเทศอย่างจริงจังมากขึ้นอีกระดับ โดยเริ่มมีการรีไซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้า และขยะอื่นๆมากขึ้น จนแม่น้ำและป่าภูเขาของญี่ปุ่นค่อยๆกลับมาเป็นปกติ

 

ปีค.ศ.2001 มาจนถึงปัจจุบัน

ปัญหา pm2.5 ของญี่ปุ่นได้คลี่คลายลง มีอากาศที่บริสุทธิ์ในการหายใจ มีน้ำใสในธาร มีสินค้าการเกษตรที่มาจากการเติบโตในธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ กว่าญี่ปุ่นจะมาเป็นประเทศที่อยู่ร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีและธรรมชาติได้ ก็ใช้เวลายาวนานหลายปี ในเมื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนั้นหยุดไม่ได้ เราก็ควรทำมันด้วยวิธีที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

 

วิธีป้องกันตนจาก pm2.5

1.สวมหน้ากากอนามัยและสวมแว่น
มากส์ ผ้าปิดปากอนามัยญี่ปุ่น pm2.5
ละอองฝุ่งควันทั้งหลายนอกจากจะเข้าผ่านทางลมหายใจแล้ว เมื่อเข้าตามากๆอาจทำให้ตาอักเสบได้ด้วย หรือผิวหนังเกิดอาการแพ้อักเสบขึ้นมา การใช้ผ้าปิดปากและใส่แว่น จะช่วยปกป้องละอองที่ปลิวเข้าตาได้ระดับหนึ่งด้วย

 

2.ใช้เสปรย์บล็อคpm2.5
มากส์ ผ้าปิดปากอนามัยญี่ปุ่น สเปรย์บล็อคฝุ่น pm2.5 ไวรัส เกสรดอกไม้
ใครคิดว่าไม่ได้ผล บอกเลยว่าหากไม่ผิวแพ้ก่อนคงไม่รู้หรอกว่าได้ผลไหม แอดมินผ่านมาแล้ว ช่วงที่แพ้เนี่ย วันที่ฉีดกับไม่ฉีดก่อนออกจากบ้านต่างกันมากเลย ช่วยป้องกันผิวโดนpm2.5 ป้องกันก่อนจะแพ้ดีกว่านะคะ ไม่ต้องเสียตังซ่อมหน้าต่อ

 

3.งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากต้องการออกกำลังกายให้ออกในที่ร่ม งดกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อสุขภาพระยะยาว

 

4.ใช้เครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรอง pm2.5 โปรดสังเกตเครื่องฟอกอากาศก่อนซื้อว่าสามารถกรองได้หรือไหม
★ คูปองส่วนลดในการช็อปปิ้งญี่ปุ่น หรือโปรแกรมแปลภาษาสินค้าต้อง IKIDANE App★ iOS / AndroidIKIDANE NIPPON LINE@
หากชอบบทความของเรา สามารถติดตาม Facebook FanPage ของเราได้