ต้นกำเนิดการแช่น้ำของชาวญี่ปุ่น
ในช่วงศตวรรษที่6 ศาสนาพุทธได้เริ่มเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น ความเชื่อการชำระล้างมลทินและสิ่งสกปรกต่างๆของศาสนาพุทธจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแช่น้ำของชาวญี่ปุ่น ในยุคสมัยนี้ผู้คนเชื่อว่าหากมาอาบน้ำชำระร่างกายที่วัดจะช่วยให้รอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บและได้รับพร การไปวัดของคนในยุคนี้คือการไปอาบน้ำที่วัดอีกทั้งยังมีการแยกระหว่าง ยุ(湯) กับ โอฟุโระ(風呂) ในสมัยนี้ ยุ(湯) ที่แปลว่าน้ำร้อนนี้หมายถึงน้ำสำหรับการแช่ ส่วน โอฟุโระ(風呂) ที่แปลว่าอ่างอาบน้ำ หมายถึงบ่อน้ำที่ทำให้เกิดควัน มีไว้สำหรับอาบควันร้อนไม่ได้มีไว้สำหรับแช่ หากเปรียบเทียบกับในปัจจุบันคือสิ่งที่คล้ายกับซาวน่าค่ะ
ยุคสมัยเอโดะถึงช่วงการปฏิวัติเมจิ
ในยุคสมัยเอโดะ ยุ(湯) กับ โอฟุโระ(風呂) ได้ถูกรวมเข้าด้วยกัน เกิดเป็น เซ็นโต(銭湯) บ่ออาบน้ำรวมที่ยังคงหลงเหลือในยุคปัจจุบัน สามัญชนในยุคนี้สนุกกับเซ็นโตเป็นอย่างมาก และที่น่าตกใจกว่านั้นคือแช่รวมทั้งชายและหญิง!!! ชาวต่างชาติที่มาทำมาค้าขายจากทางยุโรปต่างพากันตกใจกับวัฒนธรรมนี้มากรวมถึงมี เท็บโปบุโระ(鉄砲風呂) และโกเอม่อนบุโระ(五右衛門風呂) ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้ เท็บโปบุโระ(鉄砲風呂) นั้นจะมีการต้มน้ำโดยวิธีการใส่ถ่านลงในท่อเหล็ก และใส่ลงในน้ำ ค่อนข้างอันตรายพอสมควรค่ะ โกเอม่อนบุโระ(五右衛門風呂) นั้นจะมีการก่อไฟที่ด้านล่างของถังเพื่อให้น้ำอุ่น ทั้งสองรูปแบบยังมีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการแช่คนเดียวเท่านั้น
ตั้งแต่ยุคสมัยโชวะ
วัฒนธรรมการแช่น้ำเริ่มเป็นที่แพร่หลาย เกือบทุกบ้านมีอ่างสำหรับแช่น้ำ มีไว้สำหรับแช่เพื่อการผ่อนคลายความเหนื่อยล้า อ่างก็มีขนาดใหญ่มากขึ้น ในปัจจุบันมีใช้ระบบแก๊สและไฟฟ้าในการอุ่นน้ำ มีรูปแบบการแช่ที่หลากหลายมากขึ้น การท่องเที่ยวแช่ออนเซ็น สปา ซาวน่า ออนเซ็นเท้า และอื่นๆ คุณก็ลองมาสนุกกับวัฒนธรรมการแช่น้ำในแบบชาวญี่ปุ่นกันดูไหมคะ? แม้แต่ลิงที่ญี่ปุ่นยังชอบแช่ออนเซ็นเลย หน้าฟินขนาดนี้?★ข้อควรปฏิบัติที่ควรทราบก่อนลงออนเซ็น★ มีหลายข้อด้วยกัน และผู้ที่มีรอยสักไม่สามารถลงแช่ออนเซ็นได้ค่ะ รายละเอียดสามารถอ่านได้ที่นี่ค่ะ https://press.ikidane-nippon.com/th/activity-th/7199
★ คูปองส่วนลดในการช็อปปิ้งญี่ปุ่น หรือโปรแกรมแปลภาษาสินค้าต้อง IKIDANE App★ iOS / Android ★IKIDANE NIPPON LINE@★
หากชอบบทความของเรา สามารถติดตาม Facebook FanPage ของเราได้