ในบทความนี้อาจจะไม่ได้เป็นบทความที่สดใสซักเท่าไหร่นัก ทุกคนจำเหตุการณ์ที่น่าเศร้าของญี่ปุ่นในปี 2011 กันได้ไหม เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น เกิดสึนามิถล่มเข้าที่จังหวัดฟุคุชิม่า และจังหวัดมิยาหงิจนเกิดความเสียหายอย่างหนัก ในบทความนี้เราจะมาเล่าถึงเหตุการณ์และพาชมสถานที่จริงแห่งหนึ่งในเมืองนามิเอะ จังหวัดฟุคุชิม่า ซึ่งได้รับผลกระทบจากสึนามิ และมีโรงงานไฟฟ้านิวเครียร์ระเบิด จนทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองที่ผู้คนหวาดกลัว และรู้สึกเศร้าเมื่อนึกถึงของชาวญี่ปุ่น ที่นี่คือโรงเรียนประถมเมืองนามิเอะ ที่ตั้งอยู่ห่างจากโรงงานไฟฟ้านิวเครียร์ที่ระเบิดเพียง 5 กิโลเมตร และเป็นสถานที่เหลือจากการถูกคลื่นซึนามิซัดในบริเวณนี้
โรงเรียนประถมแห่งนี้มีชื่อว่า Ruins of Ukedo Elementary School Namie Town ตั้งอยู่ในเมืองนามิเอะ จังหวัดฟุคุชิม่า ซึ่งเป็นเมืองติดทะเล ผู้คนที่อาศัยในบริเวณนี้มักประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก เคยเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา มีผู้คนอาศัยจำนวนมาก และยังเป็นแหล่งส่งออกปลาคุณภาพดีของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งเลย หลังจากเหตุการณ์สึนามิที่โรงงานนี้กลายเป็นสถานที่ถูกรักษาเอาไว้ให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมภาพที่หลงเหลือจากเหตุการณ์สึนามิวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011
【สารบัญ】
- ซากที่หลงเหลือจากวันที่ 11 มีนาคม 2011
- คำบอกกล่าวจากผู้อยู่ในเหตุการณ์
- ความพยายามของผู้คนในเมืองนามิเอะ
ซากที่หลงเหลือจากวันที่ 11 มีนาคม 2011
นี่คือสภาพจริงของโรงเรียนประถมนามิเอะที่ถูกปล่อยเอาไว้ตั้งแต่หลังโดนสึนามิท่วมทั้งหมดของบริเวณชั้น 1
บริเวณห้องเรียนและห้องพยาบาลของชั้น 1ทั้งหมดถูกน้ำซัดเซาะจนพื้นและกำแพงเกือบทั้งหมดพัง โต๊ะและตู้ถูกพัดหายไปบ้าง หรือให้ไปกองกันในบริเวณนึงบ้าง เหลือเพียงกำแพงบางจุดให้เราได้เห็นอย่างเช่นกระดานน้ำอันนี้
บริเวณอ่างล้างหน้าและดื่มน้ำที่พังเพราะกระแสน้ำ
ในบางจุดของเพดานหากลองสังเกตุจะพบกับเอกสารที่ลอยไปติดบนเพดานหรือฝ้า แม้ว่าตัวอักษรจะไม่เหลืออยู่แล้วก็ตาม
คอมพิวเตอร์ที่ถูกปล่อยไว้ตั้งแต่ตอนนั้นมาคู่กับกระดานดำที่เขียนว่า "ไม่เป็นไรแน่นอน จากนี้จะต้องเป็นไปด้วยดี"
ห้องเด็กประถมชั้นที่ 1
เม้าส์ที่ถูกวางเอาไว้
โรงพละหรือลานจัดกิจกรรมของโรงเรียนถูกน้ำเสาะจนพื้นทั้งหมดพัง เหลือเพียงแป้นบาสเอาไว้ ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ แต่หากมองจาบริเวณด้านนอกจะสามารถเห็นพื้นที่พุพังได้
นอกจากสภาพสถานที่ที่ถูกน้ำพัดจนพังแล้วยังมีโต๊ะและตู้ต่างๆที่พัดมารวมกันเอาไว้ และถูกคงไว้ในสภาพเดิมหลังถูกพัด
คำบอกกล่าวจากผู้อยู่ในเหตุการณ์
นี่คือสภาพจริงหลังจากที่บริเวณนี้ถูกน้ำสึนามิซัดขึ้นมา แม้ว่าบริเวณนี้จะไม่ได้รับคลื่นเต็มๆ แต่จากผู้อยู่ในเหตุการณ์ น้ำขึ้นมาไวมาก โดยน้ำนั้นพัดบ้านเรือนบริเวณนั้นหายไปในพริบตา และท่วมบริเวณชั้น 1 ของโรงเรียน
ก่อนที่น้ำของสึนามิจะมาถึงตัวโรงเรียนในวันนั้นผ.อ.ของโรงเรียนได้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ต่างจังหวัด จึงไม่มีผู้สั่งการว่าจะให้เด็กและครูทุกคนอภยพ หรือหลบอยู่ที่ชั้น 2 ดี และไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าน้ำจะขึ้นสูงขึ้นชั้น 2 หรือไม่ หรือถ้าวิ่งออกไปจะหลบพ้นทันหรือไม่ ไม่ว่าทางไหนก็เสี่ยงพอกัน
จนมาอาจารย์ท่านหนึ่งตัดสินใจให้คุณครูและเด็กทุกคนอภยพออกจากโรงเรียนขึ้นไปบนภูเขาที่สูงกว่าตอนนี้ โดยทุกคนวิ่งอย่างสุดแรงโดยหวังว่านจะหนีทันคลื่นที่กำลังจะซัดเข้ามา ในตอนนั้นมีผู้ปกครองมาบางมารับลูกของตนที่โรงเรียนโดยรถยนต์ด้วย แต่คุณครูทุกคนตัดสินใจไม่ฟังคำขอร้องจากผู้ปกครองของเด็ก และพาเด็กทุกคนหนีขึ้นไปยังบนเขาพร้อมกัน
คุณครูและเด็กทุกคนวิ่งขึ้นไปยังบนภูเขา และหลบไปตามทางยังในรูปเนื่องจากมีเด็กคนนึงที่มักจะไปซ้อมเบสบอลบนภูเขารู้ทางบนภูเขา และนำทางทุกคนไปยังอีกฝั่งของภูเขาได้สำเร็จ และนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของทุกคน เพราะว่าคลื่นมาไม่ถึง และทุกคนปลอดภัยจากเหตุการณ์นี้ โดยผู้ปกครองบางรายที่พยายามขับรถมารับลูกของตนนั้นก็ได้เสียชีวิตเนื่องจากในช่วงนั้นมีการจราจรที่ตัดขัดและถูกซัดหายไปพร้อมกับคลื่น..
ที่บริเวณชั้น 2 ของโรงเรียนถูกคงสภาพให้สวยงามเหมือนเดิม และถูกจัดให้เป็นมิวเซียมระลึกความหลังของโรงเรียน รวมถึงสิ่งต่างๆในท้องถิ่น มีกระดานเขียนข้อความให้กำลังใจผู้คนในเมือง และความในใจของคนในเมือง "นี่คือบททดสอบที่พระเจ้าให้เราผ่านมันไปให้ได้ สู้เขา!!"
ความพยายามของผู้คนในเมืองนามิเอะ
เมื่อก่อนเมืองนี้มีเทศกาลริมทะเล มีเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ มีผู้คนจำนวนมากทำนา และตกปลาหารายได้จากที่นี่ เป็นเมืองหนึ่งที่อบอุ่นเหมือนกับเมืองอื่นๆในชนบท
แต่เหตุการณ์โรงงานนิวเครียร์ระเบิดนั้นส่งผลกระทบต่อเมืองยาวนานกว่าสึนามิมาก เพราะผู้คนจากทั่วโลกและแม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองก็ไม่เชื่อในใจความปลอดภัย สารพิษที่หลงเหลือที่ในเมืองนามิเอะ ส่งผลให้ผู้คนหนีย้ายออกไป และเมืองก็ขาดรายได้ไม่สามารถกลับมาได้เหมือนเดิมอีก
แม้กระทั่งอย่างนั้นก็ยังมีผู้คนที่พยายามจะให้เมืองนามิเอะกลับมาอีกครั้ง ทางรัฐบาลญี่ปุ่นมีโครงการและเงินช่วยเหลือให้กับผู้คนในเมืองนี้และดำเนินการฟื้นฟูเมืองให้กลับมาน่าอยู่อาศัย น่าท่องเที่ยว และโฆษณาเสมอว่าอาหารทุกอย่าง ผักทุกอย่างที่ปลูกที่นี่นั้นปลอดภัยหายห่วงแล้ว
ผ่านมา 13 ปี ผู้คนในเมืองนี้พยายามพิสูจน์ให้ทุกคนทราบว่าผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัยแล้วสามารถรับประทานได้ปกติ ผ่านอ.ย.ญี่ปุ่นที่เข้มงวดกว่าทั่วโลก 10 เท่า
แม้แต่ปลาที่จับได้ในบริเวณทะเลนี้ก็ไม่มีรังสีของนิวเครียร์ ทานได้อย่างปลอดภัยหายห่วง ไม่มีความน่ากังวลเหมือนกับที่ประเทศจีนและเกาหลีปล่อยข่าวแต่อย่างใด ได้มีการเปิดให้ผู้คนจากทั่วประเทศมาร่วมกันจับปลาที่ท่าเรือและตรวจสารเคมี รังสีไปด้วยกัน เพื่อความมั่นใจ
เมืองนามิเอะนั้นห่างจากโตเกียวเพียง 2 ชม.เท่านั้น สามารถนั่งรถไฟจากตัวเมืองโตเกียวมาได้เลย หากคุณอยากเยี่ยมชมเมืองนามิเอะในปัจจุบันว่าพัฒนาไปถึงไหนแล้วเช่นนี้ สามารถมาที่เมืองนามิเอะ และอย่าลืมแวะมาที่สถานีรถที่พัฒนารวมของฝากของเมือง มีอาหารประจำเมืองจำหน่ายให้ลองทาน และยังมีโรงงานเหล้าสาเกให้ชมด้วยนะ
และที่สำคัญมีจุดที่เป็นโปเกม่อนอยู่จำนวนมาก เพราะที่เมืองนี้เป็นเมืองของคุณพ่อนักวาดโปเกม่อนนั่นเอง โปเกม่อนที่ถูกเลือกให้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้คือ lucky เพราะ fuku(福) คือความโชคดีนั่นเอง
ร่วมกันให้กำลังใจเมืองนามิเอะ หรือมาเที่ยวเยี่ยมชมเมืองนามิเอะกันนะ เมืองนี้อาหารอร่อย ปลอดภัย และมีสิ่งที่คุณอาจจะได้ค้นพบอย่างที่เมืองอื่นให้ไม่ได้อย่างแน่นอน
ที่โรงเรียนนามิเอะเปิดให้ทุกคนสามารถเข้าชมได้ ลองมาสัมผัสบรรยากาศ
เวลาทำการ: 09:30น.–16:30น.(วันหยุดกรุณาตรวจสอบแบบเรียลไทม์ที่หน้าเว็บไซต์ทางการ)
เว็บไซต์ทางการ: https://namie-ukedo.com/en/
★ คูปองส่วนลดในการช็อปปิ้งญี่ปุ่น หรือโปรแกรมแปลภาษาสินค้าต้อง IKIDANE App★iOS/Android
★IKIDANE NIPPONLINE@
★หากชอบบทความของเรา สามารถติดตามFacebook FanPageของเราได้